͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

วิถีชีวิตกุ้ง ซีพีไวท์ ในครอบครัวเปี่ยมสุข

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 51

วิถีชีวิตกุ้ง ซีพีไวท์ ในครอบครัวเปี่ยมสุข

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เจริญโภคภัณฑ์ อาหาร หรือ ซีพีเอฟ นำสื่อมวลชนไปดูการเลี้ยง กุ้งขาว (Litopenaeus vannamei) เพื่อส่งออกด้วย ระบบน้ำหมุนเวียนแบบโรงเรือนปิด ณ ฟาร์มร้อยเพชร บ้านร้อยรู ต.ประณีต อ.เขาสมิง จ.ตราด

“กุ้งขาว” มีลำตัวขาวใสจนสังเกตเห็นลำไส้เด่นชัด ขนาดโตเต็มที่ตัวเมียใหญ่กว่าตัวผู้ สามารถเจริญเติบโตได้ทั้งในน้ำที่มีระดับความเค็มหลายระดับที่ 5 ถึง 35 PPT (ส่วนในพัน) และอุณหภูมิน้ำ 26-29 ํC และ เพื่อให้มีประสิทธิภาพของสินค้าเกษตรตัวนี้ คุณภาพดีรสชาติอร่อยโตเร็ว กินอาหารน้อย นักวิชาการของซีพีเอฟจึงทำการวิจัยและพัฒนาพันธุ์กุ้งขาวสายพันธุ์ใหม่ โดยให้ Code ที่เป็นสากลว่า  C.P. White (ซี.พี.ไวท์)

จากนั้นจึงนำมาเลี้ยงเป็นสินค้าเกษตรจากเมืองไทยสู่ตลาดโลก ปัจจุบันซีพีเอฟส่งกุ้งขาวซี.พี.ไวท์แปรรูปไปยังประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรป ออสเตรเลีย รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ปริมาณเฉลี่ย 40,000 ตัน/ปี

นายวินัย ด่านวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการ ด้านโครงการพิเศษ ซีพีเอฟบอกกับ “หลายชีวิต” ว่าได้พัฒนาระบบการเลี้ยงในโรงเรือนปิดที่เลี้ยงได้ ตลอดทั้งปี ซึ่ง เป็นฟาร์มเลี้ยงกุ้งแห่งเดียวและแห่งแรกของโลกที่ผลผลิตมีคุณภาพ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ปลอดภัยต่อผู้บริโภคเต็มร้อย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนและแท้จริง

ฟาร์มแห่งนี้ได้ออกแบบสร้างโครงเป็นการนำร่องขึ้นในปี 2548 จากนั้นมี พัฒนาระบบให้ปลอดโรค ปลอดสารเคมี ปลอดยาปฏิชีวนะ และไม่ทำลาย สภาพแวดล้อม โดยจัดแบ่งสัดส่วนมีการป้องกันพาหะของโรค ภายในโรงเรือนอุณห–ภูมิจะอยู่ที่ 30-38 องศา หลังคาปิดมิดชิดเพื่อควบคุมอุณหภูมิโรงเรือน

พร้อมทั้งวางระบบของน้ำในบ่อตามอายุขนาดและจำนวนของกุ้งที่เลี้ยงอย่างเหมาะสม ระบบการให้อาหารก็ควบคุมด้วยสมองกล โดยวางระยะเวลาในบ่ออนุบาลไว้ 25 วัน จากนั้นจึงปล่อยเข้าสู่บ่อกุ้งรุ่น 50 วัน ขั้นตอนสุดท้ายจึงให้ลงสู่บ่อกุ้งใหญ่อีก 50 วัน

สำหรับของเสียจากเศษอาหาร การลอก คราบจะผ่านเครื่องดูดขี้เลนอัตโนมัติ ส่วนน้ำก็มีการควบคุมคุณภาพผ่านระบบบำบัดกำจัดของเสียแล้วก็นำน้ำหมุนเวียน กลับมาใช้ได้อีก และสามารถเลี้ยงกุ้งได้ตลอดทั้งปีอย่างต่อเนื่อง

รวมระยะเวลา 125 วัน จะได้กุ้งขนาด 60 ตัวต่อกิโลกรัมตามขนาดที่ตลาดต้องการ การจับกุ้งโดย ใช้ด้วยเครื่องอัตโนมัติที่มิให้กระทบกระเทือนความรู้สึกของกุ้ง

ตลอดทุกขั้นตอนของชีวิตกุ้งขาวและคาบเวลาที่อยู่ในโรงเรือนแห่ง นี้เปี่ยมไปด้วยความสุข ไม่มีความเครียดแม้แต่น้อยตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย อันเป็นปัจจัยสำคัญที่นักเปิบทั่วโลกเชื่อมั่นว่า กุ้งซี.พี.-ไวท์ไม่เสียรสชาติ

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 23 ธันวาคม 2551
http://www.thairath.co.th/news.php?section=agriculture&content=116222

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
  • ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
  • กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
  • ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
  • เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
  • ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
  • "เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology