͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

เปิดตลาดกระเทียม-หอมหัวใหญ่ เกษตรหวั่นราคาร่วง / เตือนเกษตรกรปลูกพืชอื่นทดแทน

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 51

เปิดตลาดกระเทียม-หอมหัวใหญ่ เกษตรหวั่นราคาร่วง / เตือนเกษตรกรปลูกพืชอื่นทดแทน นายศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานคณะอนุกรรมการการจัดการผลิตและการตลาดกระทียม หอมแดง หอมหัวใหญ่ และมันฝรั่ง ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการเปิดตลาดสินค้ากระเทียม หอมหัวใหญ่ เมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ และมันฝรั่ง ปี 2552 ตามข้อผูกพันภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย และความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นไทย-นิวซีแลนด์

ส่วนปริมาณและอัตราภาษี มีข้อกำหนด 4 คือ 1.การเปิดตลาดสินค้ากระเทียม ตามข้อผูกพัน WTO ปริมาณ 65 ตัน อัตราภาษีในโควตา 27% 2.การเปิดตลาดสินค้าหอมหัวใหญ่ ตามข้อผูกพัน WTO ปริมาณ 365 ตัน อัตราภาษีในโควตา 27% และเปิดตลาดตามความตกลงไทย-นิวซีแลนด์ ปริมาณ 44.37 ตัน อัตราภาษีในโควตา 20%

3.การเปิดตลาดสินค้าเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ ตามความตกลง ไทย-นิวซีแลนด์ ปริมาณ 0.383 ตัน อัตราภาษีในโควตา 22% และ 4.การเปิดตลาดสินค้ามันฝรั่ง ตามความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย ปริมาณ 44.22 ตัน อัตราภาษีในโควตา 20% และเปิดตลาดตามความตกลงไทย-นิวซีแลนด์ ปริมาณ 36.71 ตัน อัตราภาษีในโควตา 20% ซึ่งจากการพิจารณาปริมาณการนำเข้าสินค้าเกษตรทั้ง 4 ชนิด ตามข้อตกลงกับประเทศต่างๆ ที่ผ่านมา คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาผลผลิตของเกษตรกรภายในประเทศ

นายศักดิ์ชัยกล่าวต่อว่า จากการติดตามการผลิตและการค้าหอมหัวใหญ่ในญี่ปุ่นซึ่งเป็นหนึ่งของผู้นำเข้าหอมหัวใหญ่จากไทย พบว่า ผลผลิตหอมหัวใหญ่ ฮอกไกโดมีปริมาณมากเกินความต้องการถึง 8,000 ตัน และสามารถเก็บรักษาในห้องเย็นได้นานถึง 8 เดือน ทำให้ตลาดหอมหัวใหญ่อิ่มตัวจนถึงฤดูกาลผลิตหน้า (เดือนมีนาคม-กรกฎาคม) ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหาราคาตกต่ำ เหลือกิโลกรัมละ 2-3 บาท

อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯได้กำหนดมาตรการรักษาระดับการผลิตหอมหัวใหญ่ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยควบคุมให้มีการนำเข้าเมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ตามข้อผูกพัน WTO ปริมาณโควตา 3.15 ตัน รวมทั้งแจ้งให้สหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่แม่วางและสันป่าตอง จ.เชียงใหม่ รับทราบเพื่อใช้เป็นข้อมูลพิจารณาตัดสินใจที่จะปลูกหอมหัวใหญ่ในฤดูกาลใหม่นี้ พร้อมทั้งจัดทำหนังสือแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งส่งเสริมและสนับสนุนการลดพื้นที่ปลูก โดยให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นทดแทน

นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกหอมหัวใหญ่ในระบบ GAP อย่างถูกต้องเพื่อลดต้นทุนการผลิต ซึ่งคาดว่า จะช่วยป้องกันปัญหาสินค้าล้นตลาดและปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำได้

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 22 ธันวาคม 2551
http://www.naewna.com/news.asp?ID=139586

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
  • ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
  • กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
  • ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
  • เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
  • ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
  • "เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology