͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

เตือน กบ-คางคกจากนอก อาจเป็นพาหะนำโรคระบาด

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 51

เตือน กบ-คางคกจากนอก อาจเป็นพาหะนำโรคระบาด ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีรายงานการตรวจพบโรคเชื้อราชิทริดในหลายพื้นที่ของโลก เช่น ประเทศออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา แอฟริกา และญี่ปุ่น โดยสาเหตุเกิดจากการนำเข้าสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกจากต่างถิ่นเข้าไปในประเทศ ซึ่งโรคเชื้อราชิทริดเจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีความชื้น อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 17-25 องศาเซลเซียส หากกบหรือคางคก ได้รับเชื้อดังกล่าวจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป คือ มีอาการทางประสาท และมีลักษณะผิดปกติบริเวณผิวหนัง เนื่องจากเชื้อราจะเข้าไปอยู่ที่ keratin ในชั้นผิวหนังของกบ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คาดว่าเชื้อราจะเข้าไปทำปฏิกิริยาที่ผิวหนังและสร้างสารพิษออกมา ทำให้ตายได้ในเวลา 18-48 วัน ส่วนถ้าเป็นลูกอ๊อด หากได้รับเชื้อเข้าไป เชื้อราจะเข้าไปแฝงอยู่ในส่วน keratin ภายในปาก ซึ่งไม่ทำให้ลูกอ๊อดตาย แต่ก็เป็นพาหะของโรคได้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีวิธีควบคุมโรคดังกล่าวเมื่อเกิดการระบาดในป่าหรือธรรมชาติ

“สำหรับประเทศไทยก็มีผู้นิยมเลี้ยงสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกชนิดพันธุ์จากต่างถิ่น จึงเป็นที่น่ากังวลใจว่าสัตว์ต่างถิ่นเหล่านี้อาจเป็นพาหะนำโรคเชื้อราชิทริดเข้ามาระบาด ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อทรัพยากรสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกในธรรมชาติบ้านเรา เนื่องจากมีภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เอื้อต่อการแพร่ขยายพันธุ์ของโรคชนิดนี้ และอาจส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกบเพื่อบริโภคที่กำลังเติบโตและสามารถนำรายได้เข้าสู่ประเทศและเกษตรกรไทย อันจะก่อให้เกิดความเสียหายที่ประเมินค่ามิได้แก่ทรัพยากรสัตว์น้ำในประเทศ” ดร.สมหญิง กล่าว

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 17 ธันวาคม 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=185388&NewsType=1&Template=1

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
  • ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
  • กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
  • ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
  • เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
  • ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
  • "เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology