͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

ช่วยเกษตรกรด้วยปุ๋ยยูเรียนำเข้าราคาถูก

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 51

ช่วยเกษตรกรด้วยปุ๋ยยูเรียนำเข้าราคาถูก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำโครง การนำเข้าปุ๋ยยูเรียขึ้นโดยได้ทำพิธีปล่อยขบวนคาราวานปุ๋ยยูเรียสู่เกษตรกรไปแล้ว เมื่อวันก่อน ณ ศูนย์ธุรกิจเกษตรอยุธยา ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ทั้งนี้เนื่องจากในวงจรการเพาะปลูกพืชในปัจจุบัน ปุ๋ยยังมีความจำเป็นต่อการปลูกพืชทุกชนิด เพื่อให้พืชได้รับปริมาณธาตุอาหารที่เพียงพอแก่การเจริญเติบโต  ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพเหมาะสมกับความต้องการของตลาด แต่เนื่องจากราคาปุ๋ยเคมีมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา จวบจนปัจจุบันปุ๋ยสูตร 46-0-0 มีราคาขายในท้องตลาดถึงตันละประมาณ 26,000 บาท เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ใช้ปุ๋ยเคมีและเพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางให้เกษตรกรได้ซื้อปุ๋ยในราคายุติธรรม และเป็นการพยุงราคาปุ๋ยในท้องตลาดไม่ให้มีราคาสูงเกินไป ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้จัดทำโครงการจัดหาปุ๋ยเคมีนำเข้าจากต่างประเทศขึ้น โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้กระทรวงเกษตรฯ นำเข้าปุ๋ยเคมีเพื่อแก้ไขปัญหาปุ๋ยราคาแพง ในวงเงิน 300 ล้านบาท โดยให้กรมส่งเสริมสหกรณ์กู้เงินปลอดดอกเบี้ยจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร และมอบให้ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด (ชสท.) เป็น  ผู้นำเข้าและจำหน่ายให้เกษตรกร โดยผ่านสหกรณ์การเกษตรและกลุ่มเกษตรกร และชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ซึ่งจะต้องส่งใช้เงินคืนให้กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ภายในเดือนพฤษภาคม 2552 และเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา ทางชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายปุ๋ยยูเรีย สูตร 46-0-0 กับบริษัท PETRONAS FERTI LIZER (KEDAH) SDN. BHD. ที่รัฐบาลมาเลเซียเป็นเจ้าของ จำนวน  100,000  ตัน ซึ่งขณะนี้ได้นำเข้าลอตแรกจำนวน  10,0000 ตัน และเก็บไว้ที่โกดังศูนย์ธุรกิจเกษตรอยุธยา เพื่อบรรจุลงกระสอบจำหน่ายให้กับสถาบันเกษตรกรต่อไป

โดยราคาจำหน่ายให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรจะอยู่ที่ราคาตันละ 16,500 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาท้องตลาดในปัจจุบันประมาณ 7,000 บาทต่อตัน ทั้งนี้ ทางสถาบันเกษตรกรจะได้รับค่าใช้จ่ายในการจัดการตันละ 400 บาท พร้อมกันนี้  ยังมีเป้าหมายเพิ่มเติมด้วยว่าหากการดำเนินงานในรอบแรกได้ผลดีก็จะใช้เงินที่เหลืออยู่ดำเนินการในรอบต่อ ๆ ไปอีกด้วย หรืออาจจะขอให้มีการขยายระยะเวลาโครงการฯ ออกไปอีก เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของเกษตรกร

สำหรับการพิจารณาจัดสรรปุ๋ยดังกล่าวนี้ ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ร่วมกับชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย เป็นผู้ทำหน้าที่ในการพิจารณาจัดสรรปุ๋ยให้แต่ละจังหวัดตามสัดส่วนพื้นที่ทำการเกษตร รวมทั้งพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมเป็นลำดับแรก ซึ่งมีการเริ่มจำหน่ายให้เกษตรกรมาตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2551 เป็นต้นไป และเกษตรกรที่ต้องการเข้าร่วมโครงการสามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่สำนักงานสหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศ โดยที่เกษตรกรสามารถสั่งซื้อได้ไม่เกินคนละ 1 ตัน  ที่ราคาตันละ 16,500 บาท

อย่างไรก็ตามเป็นที่เข้าใจกันดีแล้วว่า การจัดทำโครงการซื้อปุ๋ยเคมีจากต่างประเทศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุนให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยเคมีเพิ่มขึ้นแต่ประการใด ทั้งนี้เนื่องจากกระทรวงเกษตรฯนั้น ยังคงมีนโยบายที่จะลดการใช้ปุ๋ยเคมี และเพิ่มปริมาณการใช้ปุ๋ยอินทรีย์มากขึ้น โดยดำเนินงานภายใต้โครงการต่าง ๆ  อาทิ โครงการจัดตั้งโรงงานปุ๋ยอินทรีย์ วาระเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ โครงการใช้ระบบสหกรณ์พัฒนาชุมชนและท้องถิ่นให้พึ่งพาตนเองได้ภายใต้โครงการการมีส่วนร่วมในการสร้างวัฒนธรรมของประเทศตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการส่งเสริมสนับสนุนให้สหกรณ์ผลิตเกษตรอินทรีย์และผลิตสินค้าปลอดภัย ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นต้น

แต่ในทางปฏิบัติโดยภาครวม เกษตรกรจำนวนไม่น้อยยังนิยมใช้ปุ๋ยเคมีในการเพาะปลูกอยู่ และด้วยสภาวการณ์ที่ปุ๋ยเคมีมีราคาแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงยังมีความจำเป็นต่อการนำเข้าปุ๋ยเคมีจากต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรในระดับเฉพาะหน้าที่ยังควรจะต้องดำเนินการแบบควบคู่กับโครงการเพื่อก่อให้เกิด การลดละแล้วก็เลิกการใช้ปุ๋ยเคมีตามโครงการต่าง ๆ ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์จัดทำขึ้นมาเพื่อรณรงค์ในที่สุดนั่นเอง

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 11 ธันวาคม 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=184856&NewsType=1&Template=1

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
  • ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
  • กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
  • ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
  • เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
  • ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
  • "เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology