͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

เครื่องทำปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ด 2 in 1 ใช้ก๊าซขับเคลื่อน-คืนทุนใน 3 ปี

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 51

เครื่องทำปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ด 2 in 1 ใช้ก๊าซขับเคลื่อน-คืนทุนใน 3 ปี

ฟาร์มสุกรที่เลี้ยงสุกรไม่ถึง 500 ตัว ที่ไม่มีระบบผลิตก๊าซชีวภาพ ในแต่ละวันจะมีมูลสุกรและของเสียจากการชะล้างเป็นจำนวนมาก และใช้วิธีปล่อยลงบ่อพักซึ่งส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชุมชนรอบข้าง ส่วนการจัดการกากตะกอนก็จะใช้วิธีตากแห้งแล้วทำเป็นปุ๋ย ขายได้เพียง 1 บาท/กก. ส่วนฟาร์มที่มีระบบผลิตก๊าซชีวภาพจะมีการจัดการน้ำเสียควบคู่กันไป แต่ในส่วนกากตะกอนก็จะถูกปล่อยลงพื้นที่ว่างเปล่า หรือหากนำไปขายเป็นปุ๋ยก็จะได้ในราคาถูกเช่นเดียวกัน

ด้วยเหตุนี้ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน จึงมอบหมายให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดำเนินโครงการศึกษาการใช้ก๊าซชีวภาพเป็นพลังงานในเครื่องผลิตปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ด เพื่อเพิ่มมูลค่า และนำก๊าซชีวภาพที่ผลิตได้มาใช้ให้คุ้มค่ามากที่สุด

รศ.ดร.ธนากร วงศ์วัฒนาเสถียร แห่งภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้จัดการโครงการฯ เล่าว่า ก๊าซชีวภาพที่ผลิตได้จากฟาร์มสุกรขนาดเล็กนำไปใช้ในการหุงต้มเพียง 1-2 ลบ.ม./วัน เท่านั้น แต่มีก๊าซส่วนที่เหลือ 3-4 ลบ.ม./วัน ทำให้ต้องปล่อยก๊าซที่เหลือทิ้ง ซึ่งก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจก และส่งผลต่อภาวะโลกร้อนได้

ทางคณะวิจัย ได้ทำการออกแบบเครื่องผลิตปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ด และนำเครื่องจักรกลการเกษตร ได้แก่ เครื่องยนต์รถไถนาเดินตามมาดัดแปลงติดตั้งเครื่องยนต์ให้เป็นเครื่องต้นกำลัง และนำก๊าซชีวภาพที่เหลือใช้มาเป็นพลังงานร่วมกับน้ำมันดีเซล

"ผลการทดลองด้วยการนำกากตะกอนจากการผลิตก๊าซชีวภาพมาผลิตปุ๋ยอัดเม็ด โดยใช้ก๊าซชีวภาพเป็นพลังงานร่วมกับน้ำมันดีเซล พบว่าการใช้ก๊าซชีวภาพเป็นพลังงานร่วมกับน้ำมันดีเซล (เปิดวาล์ว 50%) ผลิตปุ๋ยอัดเม็ดได้ 190.98 กก./ชม. และใช้น้ำมันเชื้อเพลิงน้อยมาก เพียง 0.00134 ลิตร/ปุ๋ย 1 กก. ซึ่งหากเปรียบเทียบกับการใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงอย่างเดียว จะผลิตปุ๋ยอัดเม็ดได้ 171.14 กก./ชม. และใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 0.00319 ลิตร/ปุ๋ย 1 กก."

หัวหน้าโครงการ ระบุว่า โดยสรุปแล้ว การผลิตปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ดโดยนำก๊าซชีวภาพมาเป็นพลังงานร่วม ช่วยประหยัดน้ำมันดีเซลได้ 57.99% เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ปุ๋ยที่ผลิตได้ก็เพิ่มมูลค่าจากเดิมขายได้เพียง 1 บาท/กก. ก็เพิ่มเป็น 5 บาท/กก. ขณะที่คุณสมบัติด้านธาตุอาหารของปุ๋ยดังกล่าว พบว่าอุดมไปด้วยธาตุอาหารพืช ทั้งไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ซึ่งนำไปใช้กับพืชไร่ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

ด้าน ดร.ไปรยา เฉยไสย ผู้ร่วมวิจัย ได้ประเมินความเหมาะสมทางเศรษฐศาสตร์ ว่าต้นทุนเครื่องผลิตปุ๋ยนั้นมีต้นทุนที่ 40,600 บาท ส่วนเครื่องยนต์ต้นกำลัง 33,000 บาท รวมต้นทุนทั้งหมด 73,600 บาท โดยหากเกษตรกรมีกำลังการผลิตปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ด 50 กก./วัน จะต้องขายราคา 15 บาท/กก. มีระยะเวลาคืนทุน 1.31 ปี หากขายปุ๋ยราคา 5 บาท/กก. จะคืนทุนในเวลา 2.71 ปี

ทั้งนี้ หากเกษตรกรรายใดที่มีเครื่องยนต์การเกษตรที่เป็นเครื่องยนต์ต้นกำลังแล้วจะให้ผลคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์มากยิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องลงทุนเครื่องยนต์ เพียงแต่นำมาดัดแปลงและติดตั้งกับเครื่องผลิตปุ๋ยอัดเม็ดเท่านั้น

ขณะที่ จินตนา เหล่าฤชุพงศ์ หัวหน้ากลุ่มเทคโนโลยีพลังงานก๊าซชีวภาพ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน บอกว่า กรมได้มอบหมายให้ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นทำการศึกษา วิจัย และทดลองโดยใช้เวลา 1 ปี ปัจจุบันการผลิตเครื่องปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ดโดยใช้ก๊าซชีวภาพที่เหลือใช้เป็นพลังงานร่วมแล้วเสร็จ โดยมี "สังเวียนฟาร์ม" ที่ตั้งอยู่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เป็นฟาร์มต้นแบบ

ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก วันที่ 25 พฤศจิกายน 2551
http://www.komchadluek.net/2008/11/25/x_agi_b001_232942.php?news_id=232942

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
  • ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
  • กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
  • ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
  • เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
  • ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
  • "เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology