͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

แนะลดความชื้นข้าวเปลือก ช่วยเพิ่มมูลค่าราคาผลผลิต

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 51

แนะลดความชื้นข้าวเปลือก ช่วยเพิ่มมูลค่าราคาผลผลิต นายประเสริฐ โกศัลวิตร อธิบดีกรมการข้าวเปิดเผยว่า ในช่วงฤดูการผลิตข้าวนาปี ซึ่งจะตรงกับฤดูฝนทำให้ผลผลิตข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวได้มีความชื้นสูง ขายได้ราคาค่อนข้างต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าหากชาวนานำผลผลิตข้าวที่มีความชื้นเกิน 15 เปอร์เซ็นต์ ไปจำนำหรือขาย จะไม่ได้รับราคาตามที่กำหนดไว้

ดังนั้นเพื่อขายหรือจำนำให้ได้ราคาสูงขึ้น กรมการข้าวขอแนะนำการปฏิบัติในการเก็บเกี่ยว ลดความชื้น และการเก็บรักษาข้าวเปลือกก่อนจำหน่าย เกษตรกรควรเก็บเกี่ยวในระยะพลับพลึง หรือ 28 วันหลังข้าวออกดอกแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์ หากเกี่ยวข้าวด้วยเครื่องเกี่ยวนวดข้าว ควรทำความสะอาดภายในเครื่องก่อนทำการเก็บเกี่ยว และปรับความเร็วให้เหมาะสมในการเก็บเกี่ยว เพราะหากเร่งเครื่องให้เก็บเกี่ยวเร็วขึ้น จะทำให้ข้าวเปลือกร่วงหล่นสูญเสียในพื้นที่นามากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้การนวดข้าวออกจากรวงไม่หมด เมล็ดข้าวติดไปกับฟางข้าว เมล็ดข้าวแตกหักมาก

สำหรับเกษตรกรที่ใช้วิธีเก็บเกี่ยวด้วยเคียว หรือใช้เครื่องเกี่ยวนวดแบบวางราย สามารถวางรวงข้าวที่เกี่ยวได้เรียงรายไปบนตอซังข้าว ตากแดดไว้ 2-3 แดด สำหรับในพื้นที่นาที่มีน้ำขัง แนะนำให้เกี่ยวข้าวแบบพันกำแล้วตากแขวนไว้บนราวไม้หรือตากบนหัวคันนา ก่อนไปทำการนวดให้ได้เมล็ดข้าวเปลือกที่ปราศจากระแง้ เศษฟาง หรือสิ่งเจือปนอื่นๆ รวมทั้งเมล็ดข้าวลีบ เมื่อข้าวเปลือกสะอาดก็จะทำให้จำหน่ายได้ราคาดี

หากเกษตรกรสามารถปฏิบัติได้ตามที่แนะนำ โดยเมื่อเก็บเกี่ยวแล้วให้ชะลอการจำหน่าย พยายามลดความชื้นข้าวโดยการตากข้าวให้แห้งก่อนแล้ว จะทำให้ข้าวเปลือกที่ได้มีคุณภาพตรงตามที่ตลาดต้องการ และสามารถจำนำข้าวเปลือกได้ในราคาสูงขึ้น สำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2551/52 ได้เริ่มเปิดรับจำนำแล้วตั้งแต่บัดนี้ จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2552 ยกเว้นภาคใต้ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2552

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 20 พฤศจิกายน 2551
http://www.naewna.com/news.asp?ID=134288

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
  • ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
  • กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
  • ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
  • เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
  • ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
  • "เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology