͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

กรมวิชาการฯพัฒนาสำเร็จ ฝ้ายเส้นใยสีเขียวธรรมชาติ อ่อนนุ่ม-อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 51

กรมวิชาการฯพัฒนาสำเร็จ ฝ้ายเส้นใยสีเขียวธรรมชาติ อ่อนนุ่ม-อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 5 จังหวัดชัยนาท กรมวิชาการเกษตร เผยว่า ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ประสบผลสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ฝ้ายเส้นใยสีเขียว ซึ่งเป็นฝ้ายคุณภาพดีสีธรรมชาติประเภทเส้นใยยาว ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการประเมินผล เพื่อขอรับรองพันธุ์จากกรมวิชาการเกษตร ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาอีกระยะหนึ่ง

นางปริญญา สีบุญเรือง นักวิชาการเกษตร 8ว. ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ เผยว่าได้ดำเนินการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ฝ้ายเส้นใยสีธรรมชาติมาตั้งแต่ปี 2543 โดยได้ทำการวิจัยพันธุ์ฝ้ายดังกล่าว 2 สีด้วยกันคือ สีเขียวและสีน้ำตาล แต่ที่ประสบผลสำเร็จได้สายพันธุ์ที่นิ่งแล้วเป็นพันธุ์ฝ้ายสีเขียว

สำหรับข้อดีของฝ้ายเส้นใยสีเขียวดังกล่าว เมื่อนำมาทอเป็นผ้าฝ้ายแล้วสีจะสวยงามตามธรรมชาติ และเมื่อนำไปซักแล้วตากในที่ร่มสีเขียวจะเข้มขึ้น ต่างจากฝ้ายที่ย้อมสีเมื่อซักแล้วสีจะตกไม่สวยงาม นอกจากนี้ผ้าฝ้ายสีเขียวจะมีความนิ่ม สวมใส่แล้วรู้สึกสบาย หรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆก็สวยงาม รวมทั้งยังเป็นฝ้ายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะไม่มีสารฟอกย้อม สามารถลดมลภาวะทางน้ำจากสารฟอกย้อมได้

อย่างไรก็ตาม แม้พันธุ์ฝ้ายเส้นใยสีเขียวดังกล่าวจะมีความต้านทานต่อโรคใบหงิก แต่จะไม่ต้านทานต่อหนอนเจาะสมอฝ้าย เกษตรกรจำเป็นต้องดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด จึงไม่เหมาะสมที่จะปลูกในแปลงขนาดใหญ่ แต่เหมาะสำหรับปลูกในแปลงขนาดเล็กไม่เกิน 1 ไร่ เพื่อนำมาใช้ในงานหัตถกรรมพื้นบ้าน ซึ่งจะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า โดยได้ตั้งราคาขายกิโลกรัมละ 50 บาท หรือถ้าทอเป็นผ้าจะขายราคาเมตรละ 800 บาท และต้องขายในตลาดบน เนื่องจากมีราคาแพงกว่าฝ้ายทั่วไป

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 15 ตุลาคม 2551
http://www.naewna.com/news.asp?ID=128209

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
  • ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
  • กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
  • ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
  • เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
  • ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
  • "เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology