͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

6 ปี 'มกอช.' นำมาตรฐานสินค้าเกษตรไทยสู่สากล

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 51

6 ปี 'มกอช.' นำมาตรฐานสินค้าเกษตรไทยสู่สากล สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เป็นหน่วยงานหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพมาตรฐานการผลิตสินค้าเกษตรไทย ทั้งสินค้าพืช ปศุสัตว์และประมงให้ทัดเทียมและเป็นที่ยอมรับของสากล พร้อมช่วยเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรและอาหารเพื่อการส่งออก ทำให้สามารถขยายช่องทางการตลาดสินค้าเกษตรไทยในเวทีการค้าโลกได้เพิ่มมากขึ้น วันที่ 9 ตุลาคม 2551 นี้ เป็นวันสถาปนา มกอช. ครบรอบ 6 ปี ซึ่ง มกอช. ได้มุ่งมั่นพัฒนาการทำงานเพื่อยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตรไทยอย่างต่อเนื่องตลอดมา เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารของโลกในอนาคต
 
นางสาวเมทนี สุคนธรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)  กล่าวว่า ปี 2552 นี้ มกอช.ได้ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 7 แล้ว กระทรวงเกษตรฯ ได้จัดสรรงบประมาณ จำนวน 271,172,900 บาท เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรทั้งระบบให้ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยทางด้านอาหารและตรงตามความต้องการของตลาด ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลกได้ โดยใช้ 6 ยุทธศาสตร์หลักเป็นแนวทางขับเคลื่อนการดำเนินงาน ดังนี้คือ 1. ยุทธศาสตร์การพัฒนามาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารของไทยให้เป็นมาตรฐานเดียวและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล ตั้งเป้าจัดทำมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารเพิ่มเติมอีกไม่น้อย กว่า 25 เรื่อง 2. ยุทธศาสตร์พัฒนาสินค้าเกษตรไทยให้ เป็นที่ยอมรับในระดับสากล มุ่งพัฒนาหน่วยงานตรวจสอบรับรองของภาครัฐ 2 หน่วย และเอกชน 8 บริษัท ให้ได้ตามมาตรฐานสากลเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ มกอช.ได้รับรองแล้ว 12 บริษัท ทั้งจะเร่งขึ้นทะเบียนห้องปฏิบัติการ (Lab)  มีเป้าหมายกว่า 10 แห่ง จากเดิมที่ขึ้นทะเบียนแล้ว 74 แห่ง พร้อมตรวจติดตามและเฝ้าระวังห้องปฏิบัติการ จำนวน 30 แห่ง 3. ยุทธศาสตร์การปกป้องรักษาผลประโยชน์ สินค้าเกษตรและอาหารของไทย มุ่งสร้างความร่วมมือและดำเนินงานร่วมกัน (Partnership) กับหน่วยงานทั้งในและระหว่างประเทศ ในการสนับสนุนการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร ตั้งเป้าเร่งเจรจาแก้ไขปัญหาส่งออกสินค้าเกษตรมากกว่า 5 เรื่อง และเจรจาประสบความสำเร็จไม่น้อยกว่า 80% 4. ยุทธศาสตร์การส่งเสริมและดำเนินการมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร เน้นส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรให้มีความปลอดภัย ได้มาตรฐาน และเป็นไปตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 5. ยุทธศาสตร์การควบคุมสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐานและเป็นไปตามกฎหมาย ตั้งเป้าผลักดันให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้ส่งออกใช้เครื่องหมายรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% และ 6. ยุทธศาสตร์การพัฒนา มกอช. ให้เป็นองค์การบริหารแนวใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ซึ่งมุ่งพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อให้บริการข้อมูลด้านมาตรฐานและความปลอดภัยของสินค้าเกษตร เป้าหมายกว่า 140 เรื่อง

นอกจากนี้ นางสาวเมทนี กล่าวเพิ่มเติมว่า มกอช.มีภารกิจใหม่ คือ เร่งส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานสินค้าเกษตรฯ รวมถึงการควบคุมตรวจสอบและติดตามการนำมาตรฐานฯไปใช้ด้วย  อย่างไรก็ตาม มกอช.จะยังคงเป็นหน่วยงานกลางในการประสานงานกับองค์การมาตรฐานระหว่างประเทศ รวมถึงความตกลงด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) พร้อมเป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร มีการเตือนภัยสินค้าเกษตรและอาหารโดยเชื่อมโยงข้อมูลทั้งภายในและระหว่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกแล้วกว่า 1,215 ราย

ขณะเดียวกัน มกอช. ยังมุ่งกำกับ ดูแล ตรวจสอบและควบคุมสินค้าเกษตรให้มีการปฏิบัติเป็นไปตาม พ.ร.บ.มาตรฐานสินค้าเกษตรฯ พร้อมส่งเสริมให้มีการนำมาตรฐานสินค้าเกษตรฯ ไปใช้ตลอดห่วงโซ่อาหาร อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัยและพัฒนาสินค้าเกษตรและอาหาร ทั้งด้านมาตรฐานและคุณภาพที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับฟาร์มจนถึงผู้บริโภค ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศผู้นำเข้าทั่วโลก

และช่วยผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรไทยให้เพิ่มสูงขึ้นได้ต่อไปในอนาคต

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 8 ตุลาคม 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=178983&NewsType=1&Template=1

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
  • ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
  • กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
  • ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
  • เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
  • ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
  • "เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology