วิจัยสำเร็จข้าวโพด "นครสวรรค์3" เกษตรฟุ้งทนแล้ง-ต้านโรค-ผลผลิตสูง/เล็งเปิดตลาดขายถูก
เมื่อวันที่ 25 กันยายน 51
นายพิเชษฐ์ กรุดลอยมา นักวิชาการเกษตร 8 ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ ซึ่งเป็นนักวิจัยและพัฒนาพันธุ์ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมนครสวรรค์ 3 กล่าวว่า การปลูกข้าวโพดของไทยระยะที่มีความเสี่ยงมากที่สุดคือ ในช่วงที่ข้าวโพดออกดอก หากประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง หรือขาดแคลนน้ำแล้วจะทำให้ผลผลิตลดลงถึง 50% ดังนั้นจึงได้ทำการวิจัยพัฒนาพันธุ์ข้าวโพดลูกผสมดังกล่าวออกมา ซึ่งเป็นการวิจัยต่อยอดจากข้าวโพดลูกผสมพันธุ์นครสวรรค์ 2 ที่มีคุณสมบัติทนต่อโรคราน้ำค้าง โรคราสนิม และเก็บเกี่ยวง่าย
สำหรับข้าวโพดลูกผสมพันธุ์นครสรรค์ 3 จะให้ผลผลิตสูงถึง 1,147 กิโลกรัมต่อไร่ สูงกว่าข้าวโพดลูกผสมพันธุ์นครสวรรค์ 2 ประมาณ 3% และเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับข้าวโพดลูกผสมของบริษัทเอกชนรายใหญ่ จะให้ผลผลิตสูงกว่าเล็กน้อย แต่มีคุณสมบัติดีกว่าคือ สามารถทนต่อความแล้ง ดังนั้นเมื่อนำไปให้เกษตรกรทดลองปลูกเกษตรกรจึงได้การยอมรับและมีความต้องการที่จะปลูกข้าวโพดลูกผสมพันธุ์นครสรรค์ 3
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมวิชาการเกษตรยังไม่สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดลูกผสมพันธุ์นครสรรค์ 3 ได้ในปริมาณที่มากพอเพียงกับความต้องการของเกษตรกร ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการนำร่องกับกลุ่มเกษตรกรและภาคเอกชนรายย่อย ให้นำพ่อแม่พันธุ์ไปผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์ ภายใต้สัญญาสิทธิประโยชน์การใช้พันธุ์แท้ข้าวโพดของกรมวิชาการเกษตร คาดว่าในปี 2552 จะได้เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดลูกผสมพันธุ์นครสรรค์ 3 ประมาณ 350 ตัน สามารถนำไปส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกได้ประมาณ 10,000 ไร่
นายพิเชษฐ์กล่าวด้วยว่า สำหรับราคาเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดลูกผสมพันธุ์นครสรรค์ 3 กรมวิชาการเกษตรจะจำหน่ายในราคา 50 บาทต่อกิโลกรัม หากส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกรและเอกชนรายย่อยปลูกคาดว่าจะจำหน่ายไม่เกิน 70 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่บริษัทเอกชนรายใหญ่จะจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดลูกผสมประมาณ 120-140 บาทต่อกิโลกรัม
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 25 กันยายน 2551
http://www.naewna.com/news.asp?ID=124861
ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Postharvest Technology Innovation Center
เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology
