͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

นักวิชาการแนะผู้ผลิตกล้วยไม้ เร่งจดสิทธิบัตรทั้งใน-ต่าง ปท. ชิงโอกาสครองตลาดส่งออก

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 51

นักวิชาการแนะผู้ผลิตกล้วยไม้ เร่งจดสิทธิบัตรทั้งใน-ต่าง ปท. ชิงโอกาสครองตลาดส่งออก รศ.ดร.ธัญญะ เตชะศีลพิทักษ์ อาจารย์ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า กล้วยไม้ไทยถือว่าเป็นไม้ดอกไม้ประดับเขตร้อน ที่ส่งออกในตลาดต่างประเทศสูงที่สุดในขณะนี้ และถือว่ายังไม่มีประเทศใดสามารถแข่งขันได้ ส่งออกได้ปีละกว่า 3,000 ล้านบาท แต่ยังพบปัญหาที่ผู้ค้าบางรายไม่ทราบถึงการจดสิทธิบัตรกล้วยไม้ ทำให้เป็นช่องทางให้ต่างประเทศขโมยการจดสิทธิบัตร ทั้งนี้ ต้องการให้ผู้ผลิตกล้วยไม้พันธุ์ใหม่ๆ นอกจากจดสิทธิบัตรในประเทศไทย ต้องจดสิทธิบัตรในต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะประเทศคู่ค้าหลัก อย่าง สหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เพื่อให้รับการคุ้มครองทั้งในและต่างประเทศ เป็นเวลาไม่เกิน 20 ปี ทั้งนี้ เบื้องต้นภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี ต้องทดสอบความต้องการของตลาดด้วยว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด เพื่อไม่ให้กลายเป็นพันธุ์กล้วยไม้ที่ล้าหลัง

นอกจากนี้ ไม้ดอกไม้ประดับที่ส่งออกได้อันดับ 2 รองจากกล้วยไม้ ปีละ 30-40 ล้านบาท คือ ปทุมมา ซึ่งขณะนี้ได้มีการปรับปรุงปทุมมาพันธุ์เตี้ย ให้สามารถปลูกได้จากต้นกล้าแทนปลูกจากหัวพันธุ์ ออกดอกได้เร็วภายใน 3 เดือน มีลักษณะลำต้นเตี้ยลง 20 เซนติเมตร มีสีชมพู สีขาว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างทดสอบ คาดว่าจะสำเร็จภายใน 3-4 ปีนี้ พร้อมจดสิทธิบัตรและจำหน่ายออกสู่ตลาดได้

ด้าน นายโอฬาร พิทักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ไทยมีปริมาณการส่งออกกล้วยไม้เมืองร้อนตระกูลหวายมากที่สุดในโลก เกษตรกรและผู้ส่งออกกล้วยไม้ต้องเร่งพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อให้เกิดความหลากหลาย รวมทั้งควบคุมคุณภาพ สินค้าเพื่อสร้างความเชื่อถือแก่ผู้ซื้อทั่วโลก สำหรับตลาดใหม่ที่น่าสนใจคือ เกาหลี และ จีน โดยเฉพาะจีนถือเป็นตลาดใหม่ที่น่าจับตามองมากที่สุดเพราะมีประชากรจำนวนมาก ผู้ส่งออกไทย ควรเริ่มจากการเปิดตลาดสินค้าคุณภาพระดับล่างก่อนเพราะจีนสนใจสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากแต่ราคาไม่แพง

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 24 กันยายน 2551
http://www.naewna.com/news.asp?ID=124600

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
  • ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
  • กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
  • ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
  • เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
  • ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
  • "เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology