สินค้าเกษตรไทยขายที่ญี่ปุ่นได้มากขึ้น
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 51
สำหรับความร่วมมือด้านความปลอดภัย อาหารนั้น ประกอบด้วย 1) ความร่วมมือการจดทะเบียนผู้ส่งออกตามโครงการควบคุมสารตกค้างระดับฟาร์มกับประเทศญี่ปุ่น อาทิ มะม่วง 5 สายพันธุ์ ได้แก่ น้ำดอกไม้ มหาชนก หนังกลางวัน แรด และพิมเสน โดยมีบริษัทเข้าร่วมโครงการแล้ว 26 บริษัท นอกจากนี้ยังมีกระเจี๊ยบเขียว มีบริษัทเข้าร่วมโครงการ 11 บริษัท การเข้าร่วมโครงการดังกล่าวช่วยให้การส่งออกกระเจี๊ยบเขียวเพิ่มปริมาณมากขึ้น และบริษัทที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะไม่ต้องถูกสุ่มตรวจในประเทศญี่ปุ่นอีก 2) การควบคุมคุณภาพผักและผลไม้ 23 ชนิด โดยกรมวิชาการเกษตรได้ทำข้อตกลงกับประเทศญี่ปุ่น ในการควบคุมคุณภาพผักและผลไม้จำนวน 23 ชนิดไปประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2546 ส่งผลให้สินค้าเกษตรของไทยลดปัญหาเรื่องสารพิษตกค้าง ทำให้สามารถส่งออกไปญี่ปุ่นได้มากขึ้น ทั้งนี้ จากความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศเป็นอย่างยิ่ง โดยการค้าไทย-ญี่ปุ่น ในปี 2550 มีมูลค่า 46,518.76 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2549 ที่มีมูลค่าการส่งออกเพียง 18,118.59 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นมูลค่าสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.62 ส่วนมูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 28,400.17 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าเกษตรที่มีการส่งออกไปญี่ปุ่น ได้แก่ ยางพารา ไก่แปรรูป เนื้อปลาสดแช่เย็น แช่แข็ง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง กุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง ข้าว ผักสดแช่เย็น แช่แข็ง ปลาสดแช่เย็น แช่แข็ง และกล้วยไม้ เป็นต้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 15 กันยายน 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=176738&NewsType=1&Template=1
ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Postharvest Technology Innovation Center
เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology
