͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

ส่งเสริมลำไยนอกฤดู เกษตรกรพอใจกับรายได้

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 51

ส่งเสริมลำไยนอกฤดู เกษตรกรพอใจกับรายได้

ลำไย...ผลไม้ไทยอันมีพื้นที่หลักๆ ในการผลิตอยู่ที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะ เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา ลำปาง น่าน แพร่ และ ตาก ผลิตลำไยออกมามากถึง 87% ของประเทศ

ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา การผลิตลำไยในประเทศไทยประสบกับปัญหาใหญ่ๆ 2 ประการคือ ผลผลิตเพิ่มมากเป็นทวีคูณ เนื่องจากเกษตรกรขยายพื้นที่การปลูก และ ผลิตผลมากระจุกตัวในช่วงของการเก็บเกี่ยว ก็ราวๆ ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นสิงหาคม....

อย่างเมื่อปีที่แล้ว (2550) ในคาบเวลานี้ ลำไยภาคเหนือออกจากสวนถึง 373,963 ตัน ราวๆ 93% ของผลผลิตทั้งประเทศ...สร้างความเดือดร้อนเพราะราคาตกต่ำ

ก็ นับว่าโชคดีของประเทศไทยที่ได้ค้นพบ การใช้สารโปตัสเซียมคลอเรตในการชักนำให้ ลำไยออกดอกนอกฤดู ซึ่งถือว่าเป็นทางออกที่ถือว่า ดีที่สุดในการแก้ปัญหาผลิตผลลำไยอย่างยั่งยืน

นายทรงศักดิ์ วงศ์ภูมิวัฒน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร จึงได้นำแนวนโยบายนี้มอบหมายให้ นางยลวิไล ประสพสุข ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขต 6 เชียงใหม่ ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ 16 จังหวัดภาคเหนือ ดำเนินการรณรงค์และถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตลำไยนอกฤดูแก่เกษตรกร

และ...ก็ได้นำปฏิบัติการในภาคพื้นสนามมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรในเขตจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง และตาก ส่วนหนึ่งหันมาทำลำไยนอกฤดู โดยปีนี้ (2551) ได้วางพื้นที่เป้าหมายในการผลิตลำไยนอกฤดูไม่น้อยกว่า 80,000 ไร่ หรือ 9% ของพื้นที่ให้ผลผลิตทั้งประเทศ

นายมนู โป้สมบูรณ์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมการผลิตไม้ผล สำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร บอกถึงสถานการณ์โดยทั่วๆไปของลำไยว่า

“ศักยภาพการผลิตลำไยนอกฤดูของไทย ค่อนข้างได้เปรียบคู่แข่งสำคัญโดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งมีพื้นที่ผลิตลำไยกว่า 2.7 ล้านไร่ (ไทยมีเพียง 1 ล้านไร่) แต่เขามีปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวย ช่วงหน้าหนาวอากาศหนาวจัดและนาน ทั้งยังมีฝนตกชุกในเดือนมีนาคมถึงเมษายน... จึงเป็นปัญหาทำให้ลำไยไม่ออกดอก”

แม้เกษตรกรในมณฑลกวางตุ้ง อันเป็นแหล่งผลิตใหญ่สุดมีการผลิตลำไยนอกฤดูโดยใช้วิธีการเดียวกับบ้านเรา แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดีของไทยในการส่งออกผลิตผล ไปจำหน่ายในช่วงที่ตลาดต้องการโดยปราศจากคู่แข่ง

นางสาวชุมญานัช คำวงศ์ นักวิชาการ 7 ว. กลุ่มส่งเสริมการผลิตไม้ผลฯ ได้เสริมต่อว่า...แนวทางการส่งเสริมเบื้องต้นได้ เร่งถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตที่ถูกต้องเหมาะสม ตั้งแต่การเตรียมต้น ตัดแต่งกิ่ง รวมทั้งการใช้สารโปตัสเซียมคลอเรตเพื่อชักนำการออกดอก การจัดการดูแลรักษาตลอดจนเก็บเกี่ยวให้ได้ผลผลิตคุณภาพปลอดจากสารเคมี... ซึ่งได้นำร่องในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน

โดยการผลิตนั้นควรให้ตรง กับช่วงความต้องการของจีน เช่น ช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ สารทจีน (ประมาณปลายเดือนสิงหาคม) วันชาติจีน 1-10 ตุลาคมของทุกปี และ ตรุษจีน (เดือน ก.พ.)...ซึ่งจะต้องเก็บเกี่ยวก่อนเทศกาลประมาณ 10-15 วัน

นางวันนา เตชะสุรินทร์ หนึ่งในจำนวนหลายรายของเกษตรกรชาวสวนลำไยแห่งบ้านสันเหมือง ตำบลหนองล่อง กิ่งอำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน ซึ่งผ่านการอบรมและได้ผลิตลำไยนอกฤดูมากว่า 4 ปี เล่าให้ฟังว่า

“มีสวนลำไย 10 กว่าไร่ ก่อนนี้ทำลำไยในฤดูกาลมาเกือบ 20 ปี มักประสบปัญหาพายุฤดูร้อนทำให้ต้นโค่นล้มเสียหายทุกปี รวมทั้งยังมีปัญหาด้านศัตรูพืชที่มารบกวนผลผลิต ที่ได้ออกมาประดังกันขายไม่ค่อยได้ราคา จึงหันมาทำลำไยนอกฤดู...”

คือพอหลังจาก เข้ารับการอบรมกับทางเกษตรจังหวัด แล้วก็มาคิดตรองดูก่อนตัดสินใจ เห็นว่าน่าจะดีกว่าที่ผ่านๆ มาเลยทำ แรกๆ ก็ทำเพียงนิดหน่อย คือในช่วงเดือนกรกฎาคมจะเริ่มใส่สารโปตัสเซียมคลอเรต พร้อมทั้งดูแลจัดการภายในสวนตามคำแนะนำ ผลผลิตออกมาเก็บได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม ตรงกับเทศกาลที่ลูกค้าต้องการทำให้จำหน่ายได้ราคา

ปัญหาเรื่องการตลาดเหมือนก่อนก็หมดไป...จึงยึดเป็นอาชีพทำเรื่อยมา เมื่อเพื่อนชาวสวนเห็นเรามีรายได้โดยไม่คอยไปแย่งกับใครก็ทำตามบ้าง โดยไปอบรมที่สำนักงานเกษตร

ตลอดระยะเวลาในการทำลำไยนอกฤดูแต่ละปี หลังหักต้นทุนทั้งปุ๋ยยาฆ่าแมลงออกแล้ว ยังมีเงินเหลือไม่มากไม่น้อยเลขราวๆ 6 หลักเท่านั้นเอง...บอกแค่นั้นยังไม่พอ “วันนา” ยังมีการแถมท้ายอีกว่า

แม้ว่าบาลำไยนอกฤดูแก่น (ลูก) มันจะน้อย แต่มันก็ขายเซี่ยงทั้งยังได้ราคาตวย ดีกว่าแก่นใหญ่ๆ แล้วขายบ่ได้ ต้องเอาไปยะเป็นลำไยร่วง...ปุดตืน

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 23 เมษายน 2551
http://www.thairath.co.th/news.php?section=agriculture&content=87090

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
  • ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
  • กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
  • ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
  • เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
  • ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
  • "เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology