͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

แปลงขวดน้ำพลาสติกใช้ดักกุ้ง ภูมิปัญหาเลี้ยงชีพคน "โพนทอง"

เมื่อวันที่ 8 เมษายน 51

แปลงขวดน้ำพลาสติกใช้ดักกุ้ง ภูมิปัญหาเลี้ยงชีพคน "โพนทอง"

ขวดน้ำพลาสติกที่ดื่มน้ำหมดแล้ว ใช่มีประโยชน์แค่แยกเป็นวัสดุขายให้พ่อค้าที่มารับซื้อถึงบ้านเหมือนกับที่หลายๆ คนทำกันอยู่ แต่สำหรับสองสามีภรรยา "สมศักดิ์-นงลักษณ์ สาริสิทธิ์"

แห่ง ต.โพนทอง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ไม่ได้คิดแค่นั้น เมื่อมองว่าสามารถทำใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้อีก ด้วยการใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านดัดแปลงเป็น "เครื่องมือดักกุ้งฝอย" วิธีง่ายๆ ที่ปัจจุบันสร้างรายได้หลักหมื่นบาทต่อเดือน

สมศักดิ์เล่าให้ฟังว่า เคยทำงานอยู่โรงงานปูนซีเมนต์แห่งหนึ่ง แต่ลาออกมา 5-6 ปีแล้ว เพราะสุขภาพร่างกายขณะนั้นไม่แข็งแรง แรกๆ ไม่รู้จะทำอาชีพอะไรบวกกับอายุมากขึ้น กระทั่งสังเกตเห็นขวดน้ำพลาสติกที่ดื่มกันแล้วนำมาทิ้งในถังขยะจำนวนมาก จึงเก็บนำมาดัดแปลงให้เหมือน "ด้วง" ที่ดักสัตว์ ด้วยการตัดก้นขวดออกแล้วนำมุ้งเขียวเย็บเป็นถุงหุ้มขวดไว้ โดยให้ยาวกว่าขวดเล็กน้อย จากนั้นใช้ไม้ไผ่ยาวเหลาให้แหลมทำเป็นด้าม และใช้ลวดผูกติดกับขวดน้ำที่เตรียมไว้เท่านี้ก็เรียบร้อย

สมศักดิ์เล่าต่อว่า ทำเครื่องดักกุ้งฝอยทั้งหมด 250 อัน ลงทุนไม่ถึง 1,000 บาท เพียงซื้อมุ้งเขียวอย่างเดียว ก่อนนำไปปักชายตลิ่งบริเวณริมคลองชลประทานบ้านหมี่-ลพบุรี โดยใช้รำข้าวผสมข้าวสุกปั้นให้เป็นลูกกลมๆ ใส่ในขวดเป็นเหยื่อล่อให้กุ้งฝอยลงไปกินรำข้าว ซึ่งมีมุ้งเขียวหุ้มอยู่ และจะทำให้เหล่ากุ้งหาทางออกไม่ได้และติดอยู่ในนั้น กระทั่งถึงเวลากู้ก่อนนำออกจำหน่าย แต่ละวันจะดักกุ้ง 2 ครั้ง คือช่วงเวลา 15.00 น. กู้เวลา 18.00 น. และดักอีกครั้งเวล่ 19.00 น.แล้วกู้ตอนเช้า

"เราจะขายกันริมคลองเลยให้ผู้ผ่านไปมาบริเวณนั้น ในราคากิโลกรัมละ 100 บาท หรือจะซื้อครึ่งกิโลกรัม เป็นขีดก็ได้ ขีดละ 10 บาท ลูกค้าส่วนใหญ่จะนำไปชุบแป้งทอด หรือนำไปพล่าทำกุ้งเต้น ขายหมดเกลี้ยง เพราะเฉลี่ยแล้ววันหนึ่งจะดักได้ 4-5 กิโลกรัมเท่านั้น แถมบางวันมีลูกค้าสั่งจองด้วย แต่ก็ทำให้ไม่ได้" นงลักษณ์ กล่าวเสริม และยอมรับว่าอาชีพนี้ทำเงินได้ดีทีเดียว เดือนหนึ่งเฉลี่ยแล้วไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท ซึ่งถึงขณะนี้เธอและสามีทำมา 4 ปีแล้ว

อย่างไรก็ตาม สองสามีภรรยาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การยึดอาชีพดักกุ้งฝอยขายไม่ได้เหน็ดเหนื่อยอะไรมาก โดยจะมีรถสามล้อแดงหรือซาเล้งติดเครื่องยนต์เป็นพาหนะสำหรับใช้ขนอุปกรณ์ต่างๆ ออกจากบ้าน ก่อนมุ่งสู่เป้าหมายคือริมตลิ่งแนวคลองชลประทาน ซึ่งบางวันก็จะขึ้นไปทางเหนือ บางวันก็ล่องตามน้ำ แต่จะไปไม่ไกลในรัศมีเพียง 5-10 กิโลเมตร โดยจะสลับการวางเครื่องมือดักกุ้งทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา ซึ่งกุ้งจะติดดีมากช่วงฤดูน้ำหลาก และย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ทำให้ช่วงนั้นสามารถดักได้ถึง 7-8 กิโลกรัม

ใครที่ผ่านไปแถวๆ คลองชลประทานบ้านหมี่-ลพบุรี เห็นสองสามีภรรยาขับรถสามล้อแดงหรือซาเล้งลัดเลาะไปตามคลองพร้อมกับเครื่องมือดักกุ้งฝอยที่ดัดแปลงมาจากขวดน้ำดื่ม ให้สันนิษฐานว่าเป็นสมศักดิ์-นงลักษณ์ ซึ่งทั้งคู่ต่างบอกอาจมีกุ้งฝอยตัวใหญ่ๆ ไว้ให้บริการ แต่หากจะให้ชัวร์สามีเสริมว่าต้องเป็นช่วงเช้าก่อนแปดโมง ซึ่งเป็นช่วงกู้ครั้งแรกของแต่ละวันจะดีที่สุด

ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก วันที่ 8 เมษายน 2551
http://www.komchadluek.net/2008/04/08/x_agi_b001_197522.php?news_id=197522

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
  • ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
  • กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
  • ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
  • เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
  • ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
  • "เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology