͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

ยุคข้าวแพง

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 51

ยุคข้าวแพง

ช่วงนี้มีการพูดถึงราคา "ข้าว" ซึ่งพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่เฉพาะแต่ข้าวเท่านั้น อาหารการกินต่างๆ ก็มีราคาสูงตามไปด้วย เป็นยุคของข้าวยากหมากแพงอย่างแท้จริง ทั้งหมดนี้ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาที่เรารู้กันอยู่ คือ น้ำมันแพง เพราะว่าน้ำมันกลายเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญของทุกกระบวนการ

ดังนั้นหากเรายังต้องพึ่งพาน้ำมันเป็นหลักอยู่อย่างเช่นทุกวันนี้ แน่นอนว่าสินค้าทุกอย่างก็ต้องมีต้นทุนการผลิตแพงตามไปด้วย เรื่องของข้าวนั้น เกี่ยวข้องกับน้ำมันตรงที่ปัจจัยการผลิต ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ย และยาต่างๆ รวมทั้งเครื่องจักรกลเกษตร ล้วนแล้วแต่พึ่งพาน้ำมันทั้งนั้น แต่ว่าการที่ราคาข้าวพุ่งขึ้นมาสูงแบบวันนี้ มีสาเหตุอะไรบ้างที่เกี่ยวข้อง ก็น่าจะลองมองดูเพื่อจะได้เข้าใจและเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีสติ

เมื่อไม่นานมานี้ทางอเมริกาเกิดวิกฤติพลังงาน และต้องการเพิ่มปริมาณแอลกอฮอล์เพื่อนำมาผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิง จึงต้องนำข้าวโพด ซึ่งปกติใช้ในการเลี้ยงสัตว์ มาเป็นวัตถุดิบในการผลิตแอลกอฮอล์แทน ผลคือ "ข้าวโพด" ขาดตลาด และมีราคาสูงขึ้น ผลพวงที่ตามมาคือ "อาหารสัตว์" มีราคาสูงขึ้นและต้องการวัตถุดิบอย่างมากเพื่อมาทดแทน

ผลกระทบข้อนี้ส่งผลให้ราคาข้าวโพดในตลาดโลกสูงขึ้น และไทยก็ได้รับผลอันนี้เช่นเดียวกัน จนกระทั่งชาวไร่ข้าวโพดร่ำรวยไปตามๆ กัน ในขณะเดียวกันปลายข้าวก็เริ่มถูกเอามาใช้แทนข้าวโพดในอาหารสัตว์ จึงเกิดความต้องการข้าวมากขึ้น และยิ่งเวียดนามเจอปัญหาการผลิตข้าวทำให้ผลผลิตได้รับความเสียหาย และสต็อกข้าวของหลายประเทศเริ่มลดลง รวมทั้งมีการประกาศหยุดส่งออกข้าวของบางประเทศ ผลคือ ความต้องการข้าวในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ผลผลิตยังเท่าเดิม

ดังนั้นจึงแน่นอนว่า ราคาย่อมแพงขึ้นตามลำดับ ดูแล้วก็เหมือนกับกรณีของน้ำมัน ซึ่งถูกควบคุมราคาโดยกลุ่มผู้ผลิต ซึ่งจัดการกับจำนวนการผลิตและความต้องการของตลาดโลก ทำให้ราคาอยู่ในมือของกลุ่มคนเหล่านั้น เพียงแต่ว่าเรื่องของข้าวยังไม่ได้ถูกคุมราคาเบ็ดเสร็จแบบนั้น แต่ก็ไม่แน่ว่าสักวันหนึ่งชาติที่ผลิตข้าวส่งออก อาจมีกำลังต่อรองสูงมากขึ้นก็ได้

ลองมาดูสถานการณ์ข้าวไทยกันบาง เราก็ยังผลิตกันแบบเดิม ได้ปริมาณใกล้เคียงกับของเดิม แต่ว่าราคากลับเพิ่มสูงขึ้น เพราะเป็นไปตามกลไกตลาดโลก ส่งผลให้ชาวนาขายข้าวได้ในราคาสูงขึ้น และแน่นอนว่าผู้บริโภคก็ต้องซื้อข้าวแพงขึ้นแน่นอน แต่ถามว่าเราควรทำใจยอมรับสถานการณ์เช่นนี้ได้หรือไม่และเหตุการณ์ข้าวแพงจะคงอยู่นานหรือไม่

นักเศรษฐศาสตร์อย่างเช่น รศ.สมพร อิศวิลานนท์ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ทำนายสถานการณ์ข้าวแพงไว้ว่า คงไม่ใช่เป็นเหตุการณ์ระยะสั้นอีกต่อไป เพราะว่าความต้องการเชื้อเพลิงมีมาก จึงเกิดการแย่งพื้นที่ปลูกพืชพลังงานทดแทนเหล่านั้นมากขึ้น พื้นที่ข้าวก็จะลดลง รวมทั้งราคาน้ำมันเป็นตัวส่งผลให้ต้นทุนการผลิตข้าวสูงขึ้น จึงต้องขายข้าวแพงขึ้น กลายเป็นยุคที่ชาวนาเริ่มลืมตาอ้าปากได้ หลังจากที่ต้องทนทุกข์มานาน ซึ่งภาวะเช่นนี้ทำให้ชาวนามีกำลังใจในการผลิตข้าวต่อไป หากเมื่อใดก็ตามที่ชาวนาไม่มีแรงจูงใจให้ผลิตข้าวแล้ว อีกไม่นานสถานการณ์ของประเทศไทยก็จะเปลี่ยนไป กลายเป็นประเทศที่ไม่มีใครอยากปลูกข้าว

ในที่สุดก็คงหนีไม่พ้นที่จะต้องสั่งซื้อข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามากินด้วยราคาที่แพงกว่านี้ ซึ่งเรื่องนี้มีโอกาสเป็นไปได้ ไว้โอกาสหน้าผมจะลองวิเคราะห์ให้ดู ดังนั้นช่วงนี้เราในฐานะผู้บริโภคที่ต้องใช้น้ำมันราคาแพง โดยไม่มีทางเลือก หากต้องรับภาระเพิ่มเรื่องราคาข้าวขึ้นมาอีกหน่อยหนึ่ง เพื่อให้ชาวนาเพื่อนร่วมประเทศได้มีรายได้ดีขึ้นอีกเล็กน้อย

น่าจะกัดฟันยอมรับและช่วยกันบริโภคข้าวในประเทศมากกว่า "ข้าวสาลี" ของเมืองนอก ซึ่งจะแพงเท่าใดก็ไม่เห็นมีใครบ่นสักคำ

ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก วันที่ 31 มีนาคม 2551
http://www.komchadluek.net/2008/03/31/x_agi_b001_196359.php?news_id=196359

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
  • ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
  • กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
  • ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
  • เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
  • ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
  • "เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology