͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

ลูกปัดออสเตรเลียในไทยปลูกได้แล้ว

เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 51

ลูกปัดออสเตรเลียในไทยปลูกได้แล้ว ที่สถานีวิจัยดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้มีการศึกษาเพาะพันธุ์ต้นไม้เพื่อการประดับชื่อลูกปัดออสเตรเลียได้สำเร็จ สามารถขยายพันธุ์เพื่อการเพาะปลูกโดยทั่วไปในไทยได้แล้ว ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งของพันธุ์ไม้สวยงามเพื่อการประดับที่มีแนวโน้มดีในด้านตลาดของประเทศไทย อาจารย์วิสิฐ กิจสมพร หัวหน้าสถานีวิจัยดอยปุย บอกว่า ต้นไม้ชนิดนี้มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Ardisia Crenata อยู่ในวงศ์ Myrsinaceae ชื่อสามัญ Ardisia ส่วนชื่ออื่น ๆ ที่นิยมเรียกกันในบางพื้นที่ก็มี ตาเป็ดตาไก่
 
ลูกปัดออสเตรเลีย  ลักษณะทั่วไปของต้นจะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กเขียวตลอดปี (evergreen) มีถิ่นกำเนิดในประเทศญี่ปุ่น กระจายทั่วเอเชียไปถึงอินเดีย ใบเป็นแบบใบหนัง (Leathery) สีเขียวเข้ม แผ่นใบแคบ ปลายใบแหลม ใบจะแตกออกตามลำต้นและกิ่ง ขอบใบเป็นหยัก ๆ และหนาขึ้นภายในมีแบคทีเรียที่สามารถตรึงไนโตรเจน (Nitrogen fixation Bacteria) อาศัยอยู่แบบต่างพึ่งพากัน
 
ดอกสีขาวและชมพู มี 5 กลีบ ดอกมีขนาดเล็กผลกลมเล็ก ๆ จำนวนมาก มีสีแดงเข้มสามารถติดอยู่กับต้นได้นานอย่างน้อยถึง 6 เดือนใช้ประดับตกแต่งได้สวยงามมาก เป็นต้นไม้ที่สามารถอยู่ได้ในอุณหภูมิปกติทั่วไป แต่ไม่ควรให้อยู่กลางแดดจัด มีความต้องการอุณหภูมิที่  15-18 0Cในฤดูหนาวต้องการน้ำตามปกติ การขยายพันธุ์ใช้เพาะเมล็ดที่อุณหภูมิ 20 0C จะงอกดีที่สุด และสามารถตัดชำยอดได้ที่อุณหภูมิ 25 0C จะงอก รากดี

วิธีการขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด สามารถทำได้ซึ่งปกติลูกปัดออสเตรเลียจะเริ่มออกดอกตั้งแต่มิถุนายน-กรกฎาคม และเริ่มติดผลในเดือนสิงหาคม ประมาณกลางเดือนตุลาคมผลจะเปลี่ยนสีเป็นสีแดง กลางเดือนพฤศจิกายนผลจะมีสีแดงเข้ม และสามารถอยู่บนต้นจนถึงเดือนเมษายนผลจะแก่จัด จึงพร้อมที่จะใช้ทำพันธุ์ โดยเลือกเก็บผลที่แก่จัดเป็นผลที่มีความสมบูรณ์อวบอ้วน นำมารวมขยี้เอาเนื้อออกและทำความสะอาดเมล็ดด้วยน้ำ นำผึ่งแดดอ่อน ๆ นาน 1 วัน นำเมล็ดที่ดีสมบูรณ์แข็งแรงลงเพาะในกระบะหรือตะกร้าเพาะเก็บไว้ในที่ร่มประมาณ 1.5-2 เดือน ต้นกล้าลูกปัดออสเตรเลียจะงอกขึ้นมา
 
เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ (ใช้เวลา 2-2.5 เดือนหลังเมล็ดงอก) ให้ย้ายปลูกลงกระถาง 4 นิ้ว เลี้ยงดูในที่ร่มประมาณ 3 เดือน  ต้นกล้าจะมีใบจริง 5-6 ใบคัดเลือกต้นที่เจริญเติบโตดีและแข็งแรง ย้ายปลูกลงกระถาง 6 นิ้ว เลี้ยงในที่ร่ม
 
การดูแลบำรุงรักษาควรเก็บต้นลูกปัดออสเตรเลียไว้ในร่ม เช่นในโรงเรือนพลาสติกให้น้ำสม่ำเสมออย่าให้ขาดน้ำแต่อย่าให้น้ำขัง ลูกปัดออสเตรเลียต้องการดินที่มีธาตุอาหารครบถ้วนควรให้ปุ๋ยสูตรเสมอ เช่น 15-15-15 หรือ 16-16-16 อย่างใดอย่างหนึ่ง 15-20 วันต่อครั้งปริมาณ 15-20 กรัม ลงในดินโดยรอบกระถาง

ลูกปัดออสเตรเลีย เป็นต้นไม้ประดับขนาดเล็ก ใบมีสีเขียวสดใสมีขอบใบนูนขึ้นดูแปลกตา ผลมีจำนวนมากต่อต้นและมีสีแดงสดใส ใช้ประดับตกแต่งสถานที่ให้สวยงามหรือ ใส่กระถางประดับไว้ตามมุมบ้านหรือโต๊ะทำงานเพิ่มบรรยากาศการทำงานให้สดใสขึ้น ปัจจุบันเริ่มมีผู้นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับมากขึ้น  ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งพันธุ์ไม้ประเภทสวยงามเพื่อการประดับที่สถานีวิจัยดอยปุย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประสบความสำเร็จในการเพาะขยายพันธุ์

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=154668&NewsType=1&Template=1

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551
  • ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว
  • กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา
  • ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี
  • เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง
  • ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ
  • "เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology