การบรรจุเห็ดนางรมฮังการีเพื่อการประยุกต์ใช้งานเชิงพาณิชย์
ปิติรัตน์ กลิ่นธรรม บงกช หะรารักษ์ ชาริณี วิโนทพรรษ์ นพดล เกิดดอนแฝก และวรรณี ฉินศิริกุล
วารสารวิทยาศาสตร์เกษตร 42 : 1 (พิเศษ) : 587-590 (2554)
2554
บทคัดย่อ
เห็ดเป็นผลิตผลที่เกิดการเสื่อมเสียได้ง่ายและมีความต้องการของตลาดสูง ปัญหาหลักที่พบในการจำหน่ายเห็ดสดคือการเสื่อมคุณภาพอย่างรวดเร็วภายหลังการเก็บเกี่ยว การทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการบรรจุในสภาพบรรยากาศดัดแปลงที่มีความเหมาะสมสำหรับการเก็บรักษาเห็ดนางรมฮังการีเพื่อการประยุกต์ใช้งานจริง โดยบรรจุเห็ดนางรมฮังการีน้ำหนัก 80 กรัมลงในโหลอะคริลิกทรงกระบอกปลายปิดหนึ่งด้านซึ่งมีปริมาตร 1,330 มิลลิลิตร โดยส่วนด้านบนของโหลอะคริลิกปลายเปิดสำหรับการปิดผนึกด้วยฟิล์มพลาสติก ซึ่งมีพื้นที่สำหรับการแพร่ผ่านของก๊าซ 95 ตารางเซนติเมตร โดยฟิล์มพลาสติกที่ใช้มีอัตราการแพร่ผ่านของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อออกซิเจน (b) แตกต่างกัน 3 ชนิด คือ 1) ฟิล์มพอลิพรอพิลีนชนิดดึงยืดสองทิศทาง (BOPP; b= 2.46) 2) ฟิล์มที่มีค่าการแพร่ผ่านของก๊าซออกซิเจนอยู่ในช่วงปานกลางและค่า bสูงกว่า BOPP(PE-1; b= 4.06) และ 3) ฟิล์มที่มีค่าการแพร่ผ่านของก๊าซออกซิเจนสูงพิเศษและมีอัตราการเลือกให้ก๊าซออกซิเจนผ่านสูงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์หรือbต่ำกว่า 1(PP-2; b= 0.35) เก็บรักษาที่อุณหภูมิ 0±1 oCจากนั้นนำข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซออกซิเจนภายในภาชนะบรรจุมาออกแบบการบรรจุเห็ดนางรมฮังการีน้ำหนัก 1,000 กรัม ในถุงพลาสติกขนาด 41x46 เซนติเมตร จำนวน 3 ชนิด ได้แก่ ถุง BOPP ถุง PE-1และถุงเชิงประกอบพอลิโพรพิลีน-2 (BOPP-PP2) เก็บรักษาที่อุณหภูมิ 0 ± 1 องศาเซลเซียส พบว่า เห็ดนารมฮังการีที่บรรจุในถุง BOPP-PP2 สามารถเก็บรักษาได้ 8 วัน โดยยังไม่เกิดกลิ่นผิดปกติ ส่วนเห็ดนางรมฮังการีที่บรรจุในถุง BOPP ทั่วไป สามารถเก็บรักษาได้เพียง 2 วัน เนื่องจากเกิดการหายใจแบบไม่ใช