͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

มร.ช.วิจัยพืชผักจีนผ่านไทยไปขายทั่วโลก เปิดตลาดเชิงรุกอีก 5 ปี-อนาคตส่งออกผักรายใหญ่

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 52

มร.ช.วิจัยพืชผักจีนผ่านไทยไปขายทั่วโลก เปิดตลาดเชิงรุกอีก 5 ปี-อนาคตส่งออกผักรายใหญ่ น.ส.ธัญลักษณ์ แซ่เลี้ยว ผอ.ศูนย์ประสานงานมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มร.ช.) ประจำจ.ยวี่ซี มณฑลยูนนาน ประเทศจีน เปิดเผยว่าดำเนินการศึกษาวิจัย เรื่อง "การค้าเสรีไทย-จีน การปลูกพืชผักเพื่อส่งออกของมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเป็นการวิจัยเชิงมานุษยวิทยาเศรษฐกิจและได้ลงสำรวจข้อมูลในพื้นที่จริงในเขตที่รัฐบาลจีนส่งเสริมและกำหนดให้เป็นโซนการปลูกพืชเพื่อการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศโดยเฉพาะ 3 แห่งคือ อ.เฉินโก้ง เมืองคุนหมิง อ.หยวนโหม่ว จ.ฉู่ฉง และอ.ทงไห่ จ.ยวี่ซี ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกพืชผักขนาดใหญ่เพื่อการส่งออก เนื่องจากมีสภาพภูมิศาสตร์การคมนาคมขนส่ง และมีระบบบริหารจัดการ รวมทั้งมีนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัย การตลาด สนับสนุนอย่างเต็มที่

น.ส.ธัญลักษณ์ กล่าวว่า จากการลงสำรวจพื้นที่อย่างเจาะลึกในอำเภอทงไห่และอำเภออื่นๆ พบว่าเคยเป็นพื้นที่ปลูกพืชเลี้ยงคนจีนในประเทศมาอย่างยาวนาน และสามารถปลูกพืชได้ 5-6 ครั้งต่อปี พืชผักต่างๆ ที่ผลิตได้ก็ส่งไปจำหน่ายยังญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เวียดนาม เมียนมาร์ อิตาลี ส่วนใหญ่เป็นผักกาดหัวและเส้นประเภทอบแห้งจะส่งไปยังยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ส่วนผักสดจะส่งไปยังสิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย แคนาดา ฮ่องกง ไต้หวันและประเทศไทย โดยแต่ละเส้นทางจะมีระบบการขนส่งที่ดีซึ่งทางการจีนได้เตรียมไว้พร้อมในอนาคตคือเส้นทางคุนหมิง-กรุงเทพฯ หรือ อาร์ 3 เอ จีนตอนใต้-สปป.ลาว-ไทย เพื่อมุ่งออกสู่ทะเลของประเทศไทยสำหรับกระจายไปทั่วโลก

"ผลวิจัยดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าจีนได้เปิดตลาดเชิงรุกในอีก 5 ปีข้างหน้า จีนจะเป็นประเทศที่ผลิตเพื่อการส่งออก 100% ซึ่งจะมีผลกระทบต่อประเทศไทย เพราะต้นทุนการผลิตของจีนถือว่าต่ำมากโดยเฉพาะแรงงาน รวมทั้งได้มีการส่งเสริมให้บริษัทและนักลงทุนต่างประเทศเข้าไปร่วมบริหารจัดการด้านการตลาดรวมทั้งการบรรจุหีบห่อ ในอนาคตจึงจะเป็นผู้ส่งผักและผลไม้รายใหญ่ของโลก" น.ส.ธัญลักษณ์ กล่าว

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROeVlXb3dNVEV3TURJMU1nPT0=§ionid=TURNek1RPT0=&day=TWpBd09TMHdNaTB4TUE9PQ==

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology