͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

กำจัดเพลี้ยช่อดอกมะม่วง

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 52

กำจัดเพลี้ยช่อดอกมะม่วง นายอรรถ อินทลักษณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูหนาวและเป็นฤดูกาลของมะม่วงเริ่มออกช่อดอก ทำให้มักมีเพลี้ยจักจั่นเข้าทำลายช่อดอกมะม่วง การเข้าทำลายทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากยอดอ่อนและช่อดอก แล้วขับถ่ายเป็นน้ำหวานจับบนใบหรือช่อดอก มีลักษณะเหนียวเยิ้ม ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นโรคราดำที่ช่อดอก สำหรับในต้นที่มีเพลี้ยจักจั่นอยู่มากจะได้ยินเสียงเพลี้ยจักจั่นมะม่วง กระโดดดังกรอกแกรก ขณะเดินเข้าไปใกล้ทรงพุ่มมะม่วง การทำลายมักจะทำให้ช่อดอกและผลร่วงได้ ส่งผลให้มะม่วงติดผลน้อยหรืออาจไม่ติดผลเลยก็ได้

กรมส่งเสริมการเกษตรขอแนะวิธีป้องกันกำจัด โดยให้เกษตรกรใช้น้ำฉีดชะล้างช่อดอกและใบ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาช่อดอกและใบดำจากเชื้อราได้ การฉีดน้ำแรงพอจะทำให้ตัวอ่อนของเพลี้ยกระเด็นออกมาจากช่อดอก แต่ไม่ควรฉีดน้ำแรงในขณะที่ติดผลอ่อน  เพราะอาจทำให้ผลร่วงได้ นอกจากนี้ ให้ใช้กับดักไฟฟ้าเพื่อล่อตัวเต็มวัยมาทำลาย ส่วนแมลงศัตรูธรรมชาติของเพลี้ยจักจั่นที่ควรอนุรักษ์ไว้ ได้แก่ ผีเสื้อตัวเบียน Epipyropid แมลงวันตาโต Pipunculid สำหรับตัวห้ำ ได้ แก่ มวนตาโต หรือใช้เชื้อราเมตาไรเซียม หรือเชื้อราขาวบิวเวอเรีย หากพบมากสารเคมีที่แนะนำให้ใช้ได้แก่ คาร์บาริล เอนโดซัลแฟน โมโนโครโตฟอส และเบนโนมิล เป็นต้น.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 23 ธันวาคม 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=339&contentID=38812

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology