͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

สรุปผลศึกษาประกันภัยพืชผล เกษตรชง 2 แนวทางตั้งกองทุน รัฐจ่ายสมทบปีละ 3.2 พันล้าน

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 52

สรุปผลศึกษาประกันภัยพืชผล เกษตรชง 2 แนวทางตั้งกองทุน รัฐจ่ายสมทบปีละ 3.2 พันล้าน

นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้การจัดทำระบบประกันคุ้มครองความเสียหายผลผลิตของเกษตรกรรายย่อย กลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์ แทนวิธีการช่วยเหลือในรูปแบบเดิม และได้สรุปผลการศึกษาเรียบร้อยแล้ว โดยรูปแบบการช่วยเหลือและชดเชยความเสียหายผลผลิตทางการเกษตรที่เห็นว่า มีความเหมาะสมและปฏิบัติได้จริง คือ การจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติด้านการเกษตรโดยภาครัฐ ซึ่งแบ่งเป็น 2 แนวทาง คือ 1.สมาชิกสถาบันเกษตรกรหรือองค์กรเกษตรกรจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนร่วมกับภาครัฐ 2.รัฐสนับสนุนเงินเข้ากองทุนฝ่ายเดียว

โดยแนวทางแรกรัฐบาลจัดสรรเงินจำนวนหนึ่งสมทบเข้ากองทุน ตามวงเงินเดิมที่รัฐเคยจ่ายกรณีเกิดภัยธรรมชาติในแต่ละปีหรือมากกว่า ในเบื้องต้นกำหนดไว้ในอัตราร้อยละ 80 ของเงินกองทุนหรือประมาณปีละ 3,212.96 ล้านบาท ขณะเดียวกันสมาชิกทุกคนจ่ายสมทบเงินเข้ากองทุนอัตราร้อยละ 20 ของเงินกองทุน หรือตามที่คณะกรรมการนโยบายชดเชยผลผลิตการเกษตรที่ประสบภัยธรรมชาติกำหนด ซึ่งการจ่ายสมทบตามสัดส่วนที่กำหนดนี้ จำนวนเงินที่จะได้รับการชดเชยก็จะเพิ่มมากกว่าที่ได้รับอยู่ในปัจจุบันด้วย เช่น ไก่ เกษตรกรสมทบตัวละ 0.08 บาท จะได้รับชดเชยเมื่อเสียหายตัวละ 24.00 บาท จากปัจจุบันที่ได้รับตัวละ 15 บาท เป็นต้น ส่วนผู้ที่ไม่จ่ายสมทบเข้ากองทุนก็ยังคงได้รับความช่วยเหลือในอัตราเดิมที่ได้รับอยู่ในปัจจุบัน

ส่วนแนวทางที่ 2 คือ รัฐเป็นผู้จ่ายเงินเข้ากองทุนฝ่ายเดียว ขณะที่สมาชิกสหกรณ์ สมาชิกกลุ่มเกษตรกร และเกษตรกรรายย่อยไม่ต้องจ่ายสมทบ เพราะไม่ต้องการให้เกษตรกรมีภาระค่าใช้จ่าย แต่การชดเชยที่เกษตรกรจะได้รับก็ลดลงร้อยละ 20 ไปด้วย ซึ่งจะได้เท่ากับอัตราการจ่ายในปัจจุบัน

ขณะที่การช่วยเหลือเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนจะมีอยู่ 3 กรณี คือ 1.ชดเชยความเสียหายด้านผลผลิตการเกษตร 2.ช่วยเหลือด้านเงินกู้สำหรับการฟื้นฟูการผลิต 3.ชดเชยดอกเบี้ยจากการพักชำระหนี้ของสมาชิกกองทุนผู้ประสบภัยให้กับสถาบันเกษตรกร โดยกระทรวงฯจะนำผลการศึกษาดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 18 ธันวาคม 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=191904

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology