͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

เปิดตลาดผลไม้ไทยไปนอก เจาะลึกเมืองจีนแหล่งซื้อใหญ่

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 52

เปิดตลาดผลไม้ไทยไปนอก เจาะลึกเมืองจีนแหล่งซื้อใหญ่
ปัจจุบันผลผลิตทางการเกษตรของไทยมีจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นผลผลิตประเภทใด ๆ โดยเฉพาะผลผลิตกลุ่มผลไม้ที่มีมากมายในทุกพื้นที่ จนกลายเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของภูมิภาคและประเทศไปแล้ว

เมื่อปริมาณผลไม้ไทยไม่ว่าจะเป็นทุเรียน เงาะ มังคุด สับปะรด องุ่น ลิ้นจี่ ลำไย ฯลฯ มีมากมายเกินความจำเป็นที่จะบริโภคในประเทศ ทำให้การหาตลาดภายนอกประเทศเป็นทางออกหนึ่งของการเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกรและประเทศ

ในอดีตจนถึงปัจจุบันมีการส่งออกผลไม้ไทยไปในประเทศต่าง ๆ จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นประเทศแถบยุโรป อเมริกา แอฟริกา ออสเตรเลีย หรือในเอเชียด้วยกันเอง แต่ด้วยข้อจำกัดของอายุและความคงทนของผลไม้ต่าง ๆ นั้นทำให้การเพิ่มยอดหรือรายได้กระทำได้ค่อนข้างยาก

แต่ในปัจจุบันนี้ รัฐบาลไทยในหลาย ยุคหลายสมัยต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงยุครัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ขยายความสัมพันธ์ทางการค้ากับมหาอำนาจเศรษฐกิจใหม่ของโลก คือ จีน ที่มีกำลังซื้อมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายวีระชัย วีระเมธีกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีรับผิดชอบงานด้านการค้าการลงทุนกับจีนโดยเฉพาะนั้น กล่าวไว้ว่า เวลานี้การจะมองจีนต้องมองแบบมองใหม่-คิดใหม่ ด้วยความที่จีนเป็นประเทศที่ใหญ่แบ่งการปกครองเป็นมณฑล การจะขยายลู่ทางการค้าให้ได้ผล จึงต้องเลือกพิจารณาเป็นรายมณฑล โดยดูว่ามณฑลไหนควรเน้นด้านใด ซึ่งเป้าหมายหลักที่เราเน้นในช่วงที่ผ่านมา คือ การขยายการค้ากับมณฑลกวางตุ้ง เนื่องจากเป็นมณฑลที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของจีน มีการค้าขายกับต่างประเทศรวมทั้งไทยในทุกมิติสูงสุดเป็นอันดับ 1

ขณะที่กลุ่มสินค้าที่รัฐบาลเลือกทำตลาดนั้นคือหมวดสินค้าการเกษตร เนื่องจากเป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพการผลิต โดยเฉพาะการขยาย ตลาดผลไม้เพื่อเป็นฐานสำหรับการขยายไปสู่สินค้าเกษตรประเภทอื่นต่อไป โดยตลาดผลไม้ที่กำลังทำนั้น เราพยายามจะสร้างตลาดขึ้นมา 2 ตลาด คือ 1.Physical Market  และ 2.Virtual Market

Physical Market คือ การทำตลาด กลางสินค้าเกษตรหรือผลไม้ไทยในเมืองกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง โดยเป็นตลาดสินค้าระดับพรีเมี่ยมและทำคู่ขนานไปกับตลาดเจียงหนาน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของไทยในปัจจุบัน ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาเพราะเป็นตลาดเหมาเข่ง คละเกรด เราต้องแยกทำตลาดสินค้าเกรดพรีเมี่ยมของเราขึ้นมาด้วยแต่ตลาดแบบเจียงหนาน ก็ยังมีอยู่โดยทำคู่ขนานกันไป เพราะการทำตลาดพรีเมี่ยมทำให้สินค้าไทยมีอัตลักษณ์ของตัวเอง เราจะได้เปรียบ เป็นการเปิดตลาดใหม่ ให้คู่ค้าของเราเลือกรูปแบบการค้ากับเราได้ ซึ่งตอนนี้ทางจีนได้ตอบรับในแนวคิด  นี้แล้ว

ส่วนการตลาดแบบ Virtual Market นั้นเป็นการจัดทำเว็บไซต์เกี่ยวกับสินค้าเกษตรและผลไม้ไทยที่มีอยู่แล้วและกระจัดกระจายกันมากให้เป็นรูปแบบและทิศทางเดียวกัน เราต้องเปิดเว็บไซต์สำหรับไทย-จีนโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายและช่องทางการให้ข้อมูลกับผู้บริโภคเมื่อเวลามีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพสินค้าเกิดขึ้น หากเราทำ Virtual Market หรือเว็บไซต์ขึ้นมา ก็จะนำไปสู่การติดต่อค้าขายและให้ข้อมูลที่ดีได้ ซึ่งเรื่องนี้ใช้งบประมาณไม่มาก แต่ได้ผลตอบรับกลับมาสูงมาก

หากสามารถทำตลาดทั้ง 2 แบบได้สำเร็จ จะเป็นการเปิดศักราชใหม่ให้กับการค้าไทย-จีนได้แน่นอนและการเปิดศักราชใหม่ทางการค้าดังกล่าวย่อมไม่ได้ หมายถึงผลดีที่จะเกิดขึ้นกับเกษตรกรผู้ประกอบการส่งออกและเศรษฐกิจของไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่านโยบายการบริหารงานด้านการค้าการลงทุนของรัฐบาลสามารถนำพาประเทศไทยให้สามารถต่อสู้กับวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นได้จริง.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 17 ธันวาคม 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=340&contentID=37735

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology