͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

เลี้ยง "หอยแครง" ในบ่อดิน รูปแบบใหม่-ปลอดสารพิษ

เมื่อวันที่ 29 มกราคม 52

เลี้ยง "หอยแครง" ในบ่อดิน รูปแบบใหม่-ปลอดสารพิษ

การบริโภคอาหารให้ได้คุณค่าและรู้สึกปลอดภัยอย่างแท้จริงนั้น วัตถุดิบที่นำไปประกอบอาหารก็จะต้องสะอาดปราศจากสารปนเปื้อนด้วย เฉกดั่ง กลุ่มเพาะเลี้ยงหอยแครงบ้านคลองช่อง ต.คลองโคน อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม

โดยการนำของ ขนิษฐา เนียมประพันธ์ ที่รวมตัวกันเลี้ยงหอยแครงในบ่อดิน ส่งจำหน่ายจนไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด เพราะนอกจากคุณสมบัติเด่นปลอดสารพิษแล้ว หอยที่เลี้ยงยังตัวใหญ่และให้คุณค่าทางอาหารสูง

ขนิษฐาเล่าว่า กลุ่มเพาะเลี้ยงหอยแครงบ้านคลองช่อง เป็นหนึ่งใน “โครงการอาหารทะเลปลอดภัยไร้สารพิษ” ที่สมัชชาอาหารปลอดภัย จ.สมุทรสงคราม และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้การสนับสนุนการเพาะเลี้ยง เพื่อพัฒนาระบบการผลิตอาหารทะเลให้ปราศจากสารปนเปื้อน และมุ่งหวังให้ประชาชนได้บริโภคอาหารทะเลที่สด สะอาด อร่อยและปลอดภัย

"ครั้งแรกกลุ่มจะเพาะเลี้ยงหอยแครงเพื่อจำหน่ายเป็นลูกพันธุ์สำหรับไปเพาะเลี้ยงต่อ และจำหน่ายเป็นอาหารทะเลสดให้แก่พ่อค้าเพื่อไปจำหน่ายในตลาดแม่กลอง ต่อมาเมื่อมีการปรับเปลี่ยนจากเพาะเลี้ยงในทะเลอย่างเดียวมาเป็นเพาะเลี้ยงในบ่อดินริมชายทะเล แต่ก็ยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร" ประธานกลุ่มแจง

พร้อมยอมรับว่าที่ยังไม่ได้ผลเท่าที่ควรนั้น เพราะปัญหาน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ ซึ่งกลุ่มทำได้เพียงแค่เฝ้าระวัง และคอยตรวจตราโรงงานที่อาจปล่อยสารพิษลงสู่ทะเล เมื่อใดที่น้ำทะเลปนเปื้อนสารพิษ น้ำจะมีสีแดงและขุ่น หอยแครงที่เลี้ยงจะตายหมด ทำให้ชาวประมงขาดทุนทันทีเช่นเดียวกัน กว่าจะสามารถเพาะเลี้ยงได้ใหม่จะต้องรอให้น้ำทะเลฟื้นตัวนานกว่า 4 เดือน สมัชชาอาหารปลอดภัยสมุทรสงคราม จึงเข้ามาแนะนำให้เพาะเลี้ยงในบ่อดินเนื่องจากสามารถหลีกเลี่ยงน้ำเสียได้

ต่อเมื่อสมัชชาโดยการนำของ อรุณ เกิดสวัสดิ์ ผจก.แผนงานอาหารปลอดภัย ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2547 เข้ามาสนับสนุนด้านเงินทุนในการทำบ่อดินในพื้นจำนวน 30 ไร่ และซื้อพันธุ์หอยแครงให้กลุ่ม ได้เพาะเลี้ยง

“วิธีการเพาะเลี้ยงในบ่อดิน สมัชชาได้จัดทำบ่อดินขนาด 30 ไร่ริมชายทะเล มีการกักน้ำเค็มสูง 1 เมตร และนำหอยขนาดเล็กมาเลี้ยงไว้ เปลี่ยนน้ำทุก 5-7 วัน ช่วงใดที่น้ำทะเลเสียมีสารพิษ ชาวประมงก็จะไม่เปิดให้น้ำเข้า ทำให้หอยแครงในบ่อดิน มีคุณภาพสูง ไม่มีอันตรายจากสารเคมี อีกทั้งยังโตเร็วกว่าหอยแครงที่เลี้ยงในทะเลธรรมชาติ” ขนิษฐาแจง พร้อมระบุว่าปัจจุบันกลุ่มผลิตหอยแครงปลอดสารยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ที่ปัจจุบันไม่เฉพาะในสมุทรสงคราม หรือจังหวัดใกล้เคียงเท่านั้น แต่ยังส่งจำหน่ายไปยังจังหวัดอื่นๆ ทั่วทุกภาคด้วย

ด้านอรุณ กล่าวเสริมว่า พร้อมกันนี้สมัชชายังช่วยประสานเจ้าหน้าที่ภาครัฐเข้ามาเก็บหอยแครงไปตรวจหาสารพิษ รวมถึงตรวจวัดคุณภาพน้ำอย่างสม่ำเสมอ และช่วยเฝ้าระวังเรือที่จะลักลอบนำสารพิษมาทิ้งในทะเล ทำให้กลุ่มเพาะเลี้ยงหอยแครงมั่นใจได้ว่าจะมีผลผลิตป้อนเข้าสู่ตลาดสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคก็ได้รับประทานหอยแครงที่สด สะอาด และปลอดภัย

“เรื่องอาหารปลอดภัยเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องตระหนัก และรับผิดชอบร่วมกัน และเมื่อมีการประกาศนโยบายให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลก เราก็ควรทำให้อาหารที่มีต้นกำเนิดมีคุณภาพและปลอดภัยอย่างแท้จริง ซึ่งนอกจากจะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคได้แล้ว ยังช่วยสร้างรายได้หมุนเวียนให้แก่ชาวบ้านได้อย่างน่าพอใจด้วย” อรุณ กล่าวสรุป

ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก วันที่ 29 มกราคม 2552
http://www.komchadluek.net/2009/01/29/x_agi_b001_334403.php?news_id=334403

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology