͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

เร่งฟื้นฟูพื้นที่เลี้ยงกุ้งกุลาดำ "หมอดิน" เล็งขยาย 1.7 พันไร่

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 52

เร่งฟื้นฟูพื้นที่เลี้ยงกุ้งกุลาดำ "หมอดิน" เล็งขยาย 1.7 พันไร่

นายฉลอง เทพวิทักษ์กิจ รองอธิบดีและโฆษกกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า ปัญหาการเลี้ยงกุ้งกุลาดำในเขตน้ำจืดทำให้พื้นที่ข้างเคียงมีปริมาณเกลือสูงขึ้น เกิดการแพร่กระจายของดินเค็ม ทำให้เกิดน้ำเค็ม ระบบนิเวศน์เกิดความเสียหาย ป่าชายเลนเสื่อมโทรม นากุ้งถูกทิ้งร้าง และเกิดความขัดแย้งในการใช้น้ำและการใช้ประโยชน์จากที่ดิน โดยที่ผ่านมากรมพัฒนาที่ดินได้เข้าไปดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ในภาคกลาง ได้แก่ จ.นครนายก นครปฐม ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และฉะเชิงเทรา ภาคตะวันออก ได้แก่ จ.ชลบุรี ระยอง ตราด ปราจีนบุรี และภาคใต้ ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง นครศรีธรรมราช กระบี่ พังงา สงขลา สตูล ตรัง และพัทลุง

โดยการเข้าไปสำรวจความต้องการของเกษตรกร ในการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์จากนากุ้ง มาเป็นการปลูกพืชอื่นแทน แล้วทำการสำรวจจัดทำแผนที่ออกแบบต้นร่างโครงสร้างใหม่ ที่จะทำการฟื้นฟูให้สอดคล้องกับศักยภาพของที่ดิน และความต้องการของเกษตรกร โดยทำการยกร่อง เพื่อปลูกไม้ผล พืชไร่ พืชผัก หรือจัดทำแปลงนาเพื่อการปลูกข้าว รวมทั้งขุดบ่อน้ำ เพื่อสำรองน้ำหรือเลี้ยงสัตว์น้ำจืดตามแนวทฤษฏีใหม่ พร้อมทั้งปรับปรุงแก้ไขความเค็มของดิน ปรับโครงสร้างทางกายภาพของดินโดยการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ในอัตราที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน และปลูกหญ้าแฝกป้องกันการพังทลายของดินรอบขอบบ่อ

"ขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว 9,808 ไร่ ส่งผลให้เกษตรกรในพื้นที่ประมาณ 873 ราย สามารถกลับมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปี 2553 กรมฯ จะดำเนินการเพิ่มอีก 1,400 ไร่ เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสามารถผลิตพืชเศรษฐกิจได้" นายฉลอง กล่าว

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 18 พฤศจิกายน 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=187730

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology