͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

ส่งเสริมเลี้ยงกบนาในบ่อดินผนังคอนกรีต

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 52

ส่งเสริมเลี้ยงกบนาในบ่อดินผนังคอนกรีต นายวินัย จั่นทับทิม ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า กรมประมงโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดร้อยเอ็ด ได้ทำการทดลองเพาะพันธุ์และอนุบาลกบนาในบ่อดินผนังคอนกรีตเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น จนกระทั่งประสบความสำเร็จสามารถขยายผลวิธีการเพาะเลี้ยงกบนาสู่เกษตรกร สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นอย่างดี โดยการศึกษาการเพาะเลี้ยงกบของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดร้อยเอ็ด นับเป็นวิธีหรือนวัตกรรมใหม่ โดยเฉพาะการนำลูกกบวัยอ่อนลงอนุบาลในบ่อดินทำให้ได้ผลผลิตเป็นจำนวนมาก

ซึ่งช่วยให้เกษตรกรประหยัดเวลา แรงงาน และค่าใช้จ่าย  สามารถเพาะลูกกบได้ตามมาตรฐาน มีขนาดสม่ำเสมอ  อัตราการรอดตายสูง มีต้นทุนต่ำ แถมยังสามารถกำหนดระยะเวลาการเพาะการอนุบาลและนำมาจำหน่ายได้ตรงกับความต้องการของตลาดอีกด้วย สำหรับวิธีการเพาะและอนุบาลกบนาในบ่อดินผนังคอนกรีตจะใช้พ่อแม่พันธุ์กบนาที่เลี้ยงในบ่อซีเมนต์ขนาด  50  ตารางเมตร ขนาดน้ำหนัก 280-300 กรัม  เพาะพันธุ์โดยใช้วิธีเลียนแบบธรรมชาติ  ปล่อยพ่อแม่พันธุ์ผสมพันธุ์กันเอง 8-10 คู่ หลังวางไข่กบจะฟักออกเป็นตัวภายใน 18-24 ชั่วโมง จากนั้นประมาณ 5 วัน  จึงนำลูกอ๊อดลงอนุบาลในบ่อดินผนังคอนกรีตขนาด 800 ตารางเมตร โดยใช้รำผสมกับปลาป่น ในอัตราส่วน 3:1 หว่านลงบนพื้นก้นบ่อเพื่อสร้างอาหารธรรมชาติ หลังจากนั้นเติมน้ำสูงประมาณ  80 เซนติเมตร  นำลูกอ๊อดลงบ่อให้อาหาร รำ ปลาป่น อาหารปลาดุกใหญ่ อัตรา 3 :1 :2 ประมาณ 1-2 กิโลกรัม  หว่านให้ทั่วบ่อวันละ 4 ครั้ง อนุบาลประมาณ 15-16 วัน

สังเกตพบกบมีขาหน้าและเกาะที่ขอบบ่อ จะใช้อวนตาถี่รวบรวมลูกกบมาพักไว้บนบ่อซีเมนต์ขนาด 50 ตารางเมตร เพื่อเร่งให้ลูกอ๊อดเปลี่ยนเป็นกบเร็วและพร้อม ๆ กัน ใส่ผักบุ้งสุมเป็นกองสูง ระดับน้ำ 5-10 เซนติเมตร เมื่อนำลูกกบมาพักไว้ 3-5 วัน ให้อาหารลูกกบเม็ดเล็กหว่านให้กินรอบบ่อและกองไว้บนแผ่นโฟม ลูกอ๊อดจะเปลี่ยนรูปร่างเป็นกบทั้งหมดภายใน 5 วัน

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดร้อยเอ็ดยังได้ร่วมกับสำนักงานประมงจังหวัดร้อยเอ็ด เร่งส่งเสริม และแนะนำวิธีการเลี้ยงตามที่ศูนย์ฯ ได้วิจัยทดลองจนประสบผลสำเร็จสู่เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดและผู้ที่ สนใจอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่สนใจการเพาะเลี้ยงกบนาในบ่อคอนกรีต สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเพิ่มได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดร้อยเอ็ด โทรศัพท์ 0-4356- 9116 และสำนักงานประมงจังหวัดร้อยเอ็ด โทรศัพท์ 0-4351-3034 และ 0-4352-2383 ได้ในวันและเวลาราชการ.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=339&contentID=30468

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology