͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

สองกรมฯ จับมือเก็บตัวอย่างปุ๋ยตรวจสอบมาตรฐาน

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 52

สองกรมฯ จับมือเก็บตัวอย่างปุ๋ยตรวจสอบมาตรฐาน
นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัดเข้าไปตรวจสอบเรื่องการจำหน่ายปัจจัยการผลิตของสหกรณ์การเกษตร ทั้งสินค้าประเภทปุ๋ย สารเคมีและยาปราบศัตรูพืช และเมล็ดพันธุ์เพื่อการเพาะปลูก

เนื่องจากได้รับข้อมูลจากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ว่ามีสหกรณ์การเกษตรจำนวน 3,200 แห่งที่ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปุ๋ยให้แก่สมาชิกและเกษตรกรทั่วไป

กรมส่งเสริมสหกรณ์จะร่วมมือกับกรมวิชาการเกษตร โดยให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัดและผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ เข้าไปสำรวจการจำหน่ายปัจจัยการผลิตของสหกรณ์จังหวัดต่าง ๆ และเก็บตัวอย่างปุ๋ยที่สหกรณ์นำมาจำหน่าย ตัวอย่างปุ๋ยที่ได้  จะแบ่งเอาไว้เป็น 3 ส่วน ส่วนแรกจะเก็บไว้ที่สหกรณ์ ส่วนที่ 2 ส่งให้กรมวิชาการเกษตรตรวจสอบโดยใช้ห้องเซ็นทรัลแล็บ และส่วนที่ 3 เก็บไว้ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อวิเคราะห์ดูว่าปุ๋ยของสหกรณ์ที่นำมาจำหน่ายให้แก่สมาชิกนั้นได้มาตรฐาน ตรงตามหลักวิชาการหรือไม่ และหากพบว่าสหกรณ์ใดจำหน่ายปุ๋ยที่ไม่มีคุณภาพ เป็นปุ๋ยปลอม  หรือจำหน่ายเกินราคาที่เป็นจริงก็จะแจ้งให้กับสมาชิกและเกษตรกร  ได้รับทราบและระมัดระวังในการเลือกซื้อปัจจัยการผลิต รวมทั้งให้ทุกจังหวัดคุมเข้มสหกรณ์ที่จะดำเนินธุรกิจจำหน่ายปัจจัยการผลิต ว่าจะต้องมีหนังสือรับรองผลจากห้องแล็บของกรมวิชาการเกษตร เพื่อรับประกันว่าปุ๋ยที่จำหน่ายนั้นมีคุณภาพ และมีค่ามาตรฐานตรงตามที่กรมวิชาการเกษตรกำหนดเท่านั้น

อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มีการประชุมเพื่อมอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมสหกรณ์เร่งพัฒนาธุรกิจด้านการจำหน่าย ปัจจัยการผลิต โดยมุ่งเน้นให้สหกรณ์ภาคการเกษตรได้คำนึงถึงในเรื่องของคุณภาพของปัจจัยการผลิตที่จะนำมาจำหน่ายให้แก่เกษตรกร

เนื่องจากปัจจัยการผลิตนั้นถือว่ามีความสำคัญต่อการประกอบอาชีพทางการเกษตร และต้องสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องของมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจจำหน่าย ปัจจัยการผลิตของสหกรณ์ เพื่อให้เกษตรกรไว้วางใจว่าสหกรณ์จะจำหน่ายแต่สินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และคำนึงถึงผลประโยชน์ที่สมาชิกและเกษตรกรได้รับเป็นหลัก รวมถึงจะพัฒนาให้สหกรณ์การเกษตรเป็นจุดจำหน่ายปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐานแก่เกษตรกรต่อไป

สำหรับสหกรณ์ที่ขายสารเคมีและยาปราบศัตรูพืชมีจำนวน 300 แห่ง และสหกรณ์ที่ขายเมล็ดพันธุ์มีจำนวน  600 แห่ง ซึ่งในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการจัดหาปัจจัยการผลิตที่สหกรณ์ นำมาจำหน่ายให้แก่สมาชิกและเกษตรกรในพื้นที่ต่าง ๆ นั้น มูลค่าของธุรกิจดังกล่าวมีประมาณ 16,000 ล้านบาท และ  มีสหกรณ์ 165 แห่ง มียอดจำหน่ายปุ๋ย วงเงินรวมกันเกินกว่า 70% ของ มูลค่าธุรกิจทั้งหมด สหกรณ์ที่จำหน่ายปุ๋ยได้มากที่สุดอยู่จังหวัดนครสวรรค์ ส่วนชุมนุมสหกรณ์การเกษตรจังหวัดน่าน จำกัด เป็นชุมนุมฯที่สามารถดำเนินธุรกิจขายสารเคมีและยาได้มากที่สุด

และสหกรณ์ลูกค้า ธ.ก.ส. จังหวัดเพชรบูรณ์ จำกัด เป็นสหกรณ์ที่จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ได้ปริมาณสูงสุด มีส่วนแบ่งการตลาดคิดเป็น 10% ของมูลค่าธุรกิจด้านเมล็ดพันธุ์พืชของสหกรณ์ทั่วประเทศ.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=582&contentID=30236

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology