���͢��¢������Է�ҡ����ѧ����������Postharvest Technology Information NetworkPostharvest Technology�����ɵ���������Ҫԡ���͢������纺��촡���ɵ��ҹ�����ŧҹ�Ԩ��

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

'เครื่องกะเทาะผลหมากแห้ง' ประสิทธิภาพสูง

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 52

'เครื่องกะเทาะผลหมากแห้ง' ประสิทธิภาพสูง
นักวิจัยฝ่ายเครื่องจักรกลการเกษตรแห่งชาติ สถาบันวิจัยและพัฒนากำแพงแสน  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ประดิษฐ์ “เครื่องกะเทาะผลหมากแห้ง” เพื่อทดแทนแรงงานคน

นายสุทธิพร เนียมหอม นักวิจัย เจ้าของผลงานกล่าวว่า หมากเป็นพืชที่มีศักยภาพเชิงเศรษฐกิจสูง ผลหมากมีประโยชน์หลายอย่างสามารถนำไปใช้ในทางอุตสาหกรรมสีและการฟอกหนัง ยารักษาโรค และการบริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ วิธีการทั่ว ๆ ไปในการทำให้หมากแห้งทั้งเมล็ด เริ่มจากเก็บหมากแก่ที่สุกคาต้นมาตากทั้งทะลาย โดยตากบนลานปูน ข้างถนน หรือ ลานกว้าง ๆประมาณ 3 เดือน (มกราคม-มีนาคม) หมากจึงจะล่อนพร้อมที่จะกะเทาะเปลือกออก เมื่อเอาเปลือกออกแล้วต้องตากเมล็ดหมากต่อไปอีก 2-3 วัน จนเห็นว่าเมล็ดหมากแห้งสนิทดีแล้วจึงนำส่งตลาดหรือผู้ส่งออกต่อไป ซึ่งในขั้นตอนการกะเทาะเปลือกหมากนี่เอง หากใช้แรงงานคนด้วยวิธีการทุบให้เปลือกหมากแตกและแคะเอาเมล็ดภายในออกจะทำได้วันละประมาณ 30-40 กิโลกรัม ได้ค่าแรงกิโลกรัมละ 3 บาท ซึ่งปรากฏว่าไม่รวดเร็วและทันต่อความต้องการของตลาดอีกทั้งแรงงานภาคการเกษตรก็ไม่เพียงพอ เกษตรกรผู้ประกอบการเกษตรจึงต้องหันไปหาเครื่องจักรกลการเกษตรแทน

ดังนั้น นายสุทธิพร จึงได้คิดค้นเครื่องกะเทาะผลหมากแห้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เครื่องกะเทาะผลหมากแห้งเป็นการออกแบบระบบการกะเทาะด้วยวิธีการใช้แรงเฉือนที่เกิดขึ้นในระหว่างการหมุนของล้อยางทำให้ผลหมากแห้งถูกแรงกดจนเปลือกแตกแต่แรงกดนี้จะไม่เกินจุดแตกหักของเมล็ดหมากและเปลือกจะถูกฉีกออกเพื่อให้เมล็ดสามารถหลุดออกจากเปลือกได้เมื่อเคลื่อนที่ผ่านแท่งเหล็ก กลมขนาด  9.5 มิลลิเมตร  ที่เชื่อมเรียงกันทุกระยะ 15 มิลลิเมตร เพื่อให้เกิดแรงเสียดทาน ซึ่งแรงกดและแรงเฉือนจะสามารถเพิ่มหรือลดได้โดยการบีบหรือคลายตะแกรงเหล็กที่สร้างไว้รอบขอบล้อยาง และเพื่อให้การปอกเปลือกกระทำได้ดีขึ้นจึงได้ออกแบบให้มีล้อยางสอง ชุดวางเรียงกันโดยใช้มอเตอร์ตัวเดียวขับส่งกำลังผ่านทางสายพานและมู่เล่ ซึ่งสามารถแบ่งส่วนประกอบของเครื่องต้นแบบที่ได้พัฒนาขึ้นมาเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ คือ  ถังใส่ผลหมากแห้ง ชุดปอกเปลือกหมาก และชุดต้นกำลัง วิธีใช้งาน นำผลหมากแห้งที่ตากแห้งดีแล้ว ใส่เข้าถังป้อนทีละผลอย่างต่อเนื่อง เมื่อผลหมากถูกกะเทาะแล้วจะออกทางด้านหน้าพร้อมเปลือก จากนั้นเกษตรกรสามารถแยกเอาเฉพาะเมล็ดออกจากเปลือกได้โดยง่าย ซึ่งเครื่องกะเทาะผลหมากแห้งต้นแบบนี้ ได้ดำเนินการออกแบบสร้าง ทดสอบและประเมินผล ได้สภาวะที่เหมาะสมในการกะเทาะผลหมากแห้งแบบคละขนาด โดยใช้รอบของล้อยาง 440 rpm, แรงดันลมยาง 20 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว และระยะห่างของล้อยางกับตะแกรง 15 มิลลิเมตร ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพการกะเทาะ คือ ได้เปอร์เซ็นต์เมล็ดหมากเต็มเมล็ด 64.4%, ได้เมล็ดหมากแตก 15.2%, มีผลหมากที่ปอกไม่ออก 20.5%, มีเปอร์เซ็นต์การผลิตเท่ากับ 76.9% และสามารถปอกผลหมากแห้งได้ 110 กิโลกรัมต่อชั่วโมง โดยมีต้นทุนในการสร้างเครื่องปอกเปลือกหมากเพียง 25,000 บาท


“เครื่องกะเทาะผลหมากแห้ง” ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากสถาบันวิจัยและพัฒนาแห่ง ม.เกษตรศาสตร์ ปี 2547  และได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติผลงานสิ่งประดิษฐ์คิดค้นทางวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี  ประจำปี 2551 หัวข้อ “เครื่องจักรกลพลังงาน” และสิ่งแวดล้อมเพื่อการเกษตร จากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับมูลนิธิธนาคารกรุงเทพ ซึ่งขณะนี้ได้จดอนุสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะเผยแพร่สู่สาธารณชนที่สนใจทั่วไป

ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ ฝ่ายเครื่องจักรกลการเกษตรแห่งชาติสถาบันวิจัยและพัฒนา กําแพงแสน ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม โทร. 0-3435-1397, 0-3435-1946.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=339&contentID=29424

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology