͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

ดันไทย "ฮับ" เมล็ดพันธุ์เอเชีย เกษตรวาง 3 ยุทธศาสตร์รองรับ เปิดเวทีถก 50 ชาติโชว์ศักยภาพ

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 52

ดันไทย "ฮับ" เมล็ดพันธุ์เอเชีย เกษตรวาง 3 ยุทธศาสตร์รองรับ เปิดเวทีถก 50 ชาติโชว์ศักยภาพ

นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เผยว่า ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเมล็ดพันธุ์แห่งเอเชียและแปซิฟิก (Asian Seed Congress 2009) ระหว่างวันที่ 8-12 พฤศจิกายนนี้ ที่โรงแรมแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญของประเทศไทย ที่จะแสดงบทบาทบนเวทีโลกในฐานะเป็นศูนย์กลางหรือ "ฮับ" เมล็ดพันธุ์และครัวโลกที่มีคุณภาพ เนื่องจากประเทศไทยมีลักษณะภูมิประเทศอันอุดมสมบูรณ์ และภูมิอากาศที่หลากหลายเหมาะแก่การผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพ และยังเป็นแหล่งผลิตและส่งออกเมล็ดพันธุ์ที่มีศักยภาพสูงเป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคเอเซียรองจากจีนและญี่ปุ่น โดยในปี 2551 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกเมล็ดพันธุ์ทั้งสิ้น 20,934.41 ตัน คิดเป็นมูลค่าถึง 2,548.48 ล้านบาท ขณะที่ตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคมของปีนี้มีการส่งออกไปแล้ว 11,995.21 ตันมูลค่ากว่า 2,227.61 ล้านบาท

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนด 3 ยุทธศาสตร์และนโยบายทางด้านเมล็ดพันธุ์ คือ

ยุทธศาสตร์ที่ 1 ให้มีเมล็ดพันธุ์ดีเพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศ สนับสนุนให้มีการวิจัยพืชพันธุ์ใหม่ให้ เกษตรกรได้นำไปใช้เพื่อลดต้นทุนการผลิตและให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณเพียงพอกับความต้องการ

ยุทธศาสตร์ที่ 2 สนับสนุนให้ความสำคัญภาคเอกชนและกลุ่มเกษตรกรมีศักยภาพผลิตพืชพันธุ์ดี เพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรรายย่อยที่มีเงินทุนน้อย และสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ในการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดลูกผสมของกลุ่ม เกษตรกร

ยุทธศาสตร์ที่ 3 สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง(Hub) ด้านผลิตเมล็ดพันธุ์พืชในภาคพื้น เอเชีย เช่น การพัฒนาสายพันธุ์ หรือเป็นเจ้าของสายพันธุ์ภายใต้แบรนด์เนมของไทย การสร้างความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีพัฒนา LAB ตรวจสอบเมล็ดพันธุ์ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางกฎหมาย ประสานเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างกลุ่มต่างๆ ระหว่างการพัฒนาวิชาการเมล็ดพันธุ์ของกระทรวงเกษตร และอุตสาหกรรมการค้าเมล็ดพันธุ์และโครงการครัวไทยสู่ครัวโลกของกระทรวง พาณิชย์ เป็นต้น

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 30 ตุลาคม 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=185198

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology