���͢��¢������Է�ҡ����ѧ����������Postharvest Technology Information NetworkPostharvest Technology�����ɵ���������Ҫԡ���͢������纺��촡���ɵ��ҹ�����ŧҹ�Ԩ��

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

สศก.เปิดผลศึกษาปลานิลไทยไม่พอส่งออก เผยศักยภาพล้น/ทั้งตลาดใน-นอกต้องการสูง

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 52

สศก.เปิดผลศึกษาปลานิลไทยไม่พอส่งออก เผยศักยภาพล้น/ทั้งตลาดใน-นอกต้องการสูง นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันความต้องการปลานิลในตลาดโลกยังสูงมาก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ขณะที่ความต้องการบริโภคปลานิลภายในประเทศก็ยังเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด ทำให้ปริมาณการส่งออกลดลง ประกอบกับการส่งออกยังมีข้อจำกัดที่จะต้องไม่มีกลิ่นโคลน จึงจะเป็นที่ยอมรับของตลาดต่างประเทศ สศก. จึงได้ลงพื้นที่ทำการศึกษาศักยภาพการผลิตและการจลาดของปลานิล เพื่อหาช่องทางในการขยายตลาดให้มากขึ้นในอนาคต และเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรได้อีกทางหนึ่ง

โดยผลการศึกษาพบว่า การเลี้ยงปลานิลของเกษตรกร มี 2 แบบ คือ การเลี้ยงปลานิลในกระชัง และการเลี้ยงปลานิลในบ่อดิน โดยการเลี้ยงปลานิลในกระชังมีต้นทุนการผลิตเฉลี่ยกระชังละ 24,713 บาท ต้นทุนทั้งหมดเฉลี่ยกิโลกรัมละ 33.64 บาท และมีกำไรกิโลกรัมละ 8.34 บาท สำหรับการเลี้ยงในบ่อดิน มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ยไร่ละ 20,975 บาท ต้นทุนทั้งหมดเฉลี่ยกิโลกรัมละ 26.11 บาท และมีกำไรกิโลกรัมละ 5.26 บาท

ด้านนางนารีณัฐ รุณภัย รองเลขาธิการและรองโฆษก สศก. เปิดเผยถึงการวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค พบว่า จุดแข็ง คือ ปลานิลสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี เลี้ยงง่าย และมีอัตราการเจริญเติบโตสูง ขยายพันธุ์ได้เร็ว พ่อแม่พันธ์ได้รับการพัฒนาและมีปริมาณเพียงพอ มีเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงที่ครบวงจร ตลอดจนมีระบบการเลี้ยงที่มีมาตรฐาน ด้านจุดอ่อน คือ มีต้นทุนการผลิตสูงโดยเฉพาะค่าอาหาร ปลาที่เลี้ยงในบ่อดินมีปัญหาเรื่องของกลิ่นโคลน

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 26 มกราคม 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=145012

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology