͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

ยกมาตรฐานรับ AFTA เกษตรเร่งพัฒนาคุณภาพสินค้าอ่อนไหว/สกัดของนอกทะลัก

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 52

ยกมาตรฐานรับ AFTA เกษตรเร่งพัฒนาคุณภาพสินค้าอ่อนไหว/สกัดของนอกทะลัก

นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เร่งจัดทำมาตรฐานสินค้าเกษตรของไทย โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่มีความอ่อนไหวในการเปิดตลาดเสรีทางการค้า ซึ่งอนาคตอันใกล้นี้มีสินค้าหลายรายการที่ต้องปรับลดอัตราภาษีลงเหลือ 0 % และ 5% ตามข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียนหรืออาฟตา (AFTA) อาทิ สินค้ากาแฟ ข้าว และข้าวโพด จะทำให้การค้าระหว่างประเทศเปิดกว้างมากขึ้น

ดังนั้น ไทยจึงจำเป็นต้องเร่งจัดทำมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร พร้อมพัฒนาเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัย ซึ่งนอกจากจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสกัดกั้นสินค้าไม่ให้ทะลักเข้ามาตีตลาดภายในประเทศแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้นำเข้า ตลอดจนเป็นจุดแข็งช่วยเพิ่มสมรรถนะการแข่งขันให้กับสินค้าเกษตรไทยในเวทีการค้าโลกด้วย

รม ว.เกษตรฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ปีนี้กระทรวงเกษตรฯมีแผนเร่งสนับสนุน และผลักดันให้เกษตรกรผู้ปลูกพืชเข้าสู่ระบบมาตรฐานเพี่มมากขึ้น โดยจะส่งเสริมการตรวจรับรองฟาร์มมาตรฐานแบบกลุ่ม(GAP) นำร่องพื้นที่ จ.เชียงใหม่ สุโขทัย ขอนแก่น นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี ชุมพร พัทลุง และสงขลา เพื่อเป็นต้นแบบให้กลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ ซึ่งเป็นช่องทางที่จะช่วยขยายผลการเพิ่มปริมาณแหล่งผลิตมาตรฐาน GAP เพิ่มมากขึ้นได้" รมว.เกษตรและสหกรณ์กล่าว

ด้าน นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล ผ.อ.มกอช. กล่าวว่า ปี 2553 กระทรวงเกษตรฯได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 230,476,700 บาท ให้ มกอช. ขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารของไทยทั้งสินค้าพืช ปศุสัตว์ และสินค้าประมงให้ได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัย เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของประเทศผู้นำเข้าทั่วโลก ภายใต้วิสัยทัศน์ "เป็นองค์กรนำด้านการมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารสู่ระดับสากล"

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 12 ตุลาคม 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=182768

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology