͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

'นกแสก' นักปราบหนูมือหนึ่งในสวนปาล์มน้ำมัน

เมื่อวันที่ 23 กันยายน 52

'นกแสก' นักปราบหนูมือหนึ่งในสวนปาล์มน้ำมัน
หนู เป็นศัตรูพืชสำคัญที่สร้างความเสียหายให้กับสวนปาล์มน้ำมันทุกระยะ โดยหนูพุกใหญ่ และ หนูนาใหญ่ มักกัดทำลายต้นกล้าปาล์มน้ำมันในแปลงเพาะชำและต้นปาล์มปลูกใหม่ นอกจากนี้ยังมีหนูป่ามาเลย์ ที่เข้าทำลายปาล์มน้ำมันในช่วงให้ผลผลิต กัดกินตั้งแต่ช่อดอกอ่อน ผลปาล์มอ่อน ผลดิบ และกินกระทั่งเนื้อเปลือกผลสุก เกษตรกรหลายพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากหนูป่า มาเลย์ที่กัดกินทะลายปาล์มสดเสียหายสะสมรุนแรง ทำให้ขายผลผลิตไม่ได้ราคา รวมทั้งยังต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการซื้อสารเคมีเพื่อกำจัดหนูค่อนข้างสูงแต่ก็ยังไม่สามารถปราบหนูได้ กรมวิชาการเกษตร จึงได้ศึกษาวิจัยการใช้ “นกแสก” กำจัดหนูในสวนปาล์มน้ำมันซึ่งได้ผลดีมาก

นกแสกเป็นนกประจำถิ่นของไทยซึ่งมีอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ และเป็นนกกลางคืนที่อาศัยอยู่ใกล้ชุมชน ปกติใช้โพรงไม้และช่องใต้หลังคาเป็นรังวางไข่ กินหนูเป็นอาหาร มีพฤติกรรมล่าเหยื่อในที่โล่ง ทุ่งหญ้า ไร่นา และสวนปาล์มน้ำมัน มีการผสมพันธุ์ในช่วงเดือนกันยายน-กุมภาพันธ์ เลี้ยงลูก 2 ครอกติดต่อกัน จำนวนไข่รังละ 5-7 ฟอง จำนวนต่ำสุด 2 ฟอง สูงสุด  15 ฟอง เพศเมียจะฟักไข่ประมาณ 30 วัน  ใช้เวลาฟักไข่ 18 ชั่วโมงต่อวัน ระยะแม่นกฟักไข่และช่วงที่ลูกยังเล็ก ๆ พ่อนกจะออกล่าเหยื่อนำมาป้อนให้แม่และลูกนกทุกวัน

ทีมนักวิจัยของกรมวิชาการเกษตรได้ศึกษาส่วนประกอบของเศษอาหารที่นกแสกสำรอกออกมาในบริเวณที่นกเกาะพักนอน พบว่า นกแสกในสวนปาล์มน้ำมันของไทยกินหนูป่ามาเลย์เป็นอาหารเกือบ 100%  โดยนกแสกกินหนูเฉลี่ยวันละ 1-2 ตัว หรือประมาณ 350-700 ตัวต่อปี ซึ่งหนูจำนวนนี้ถ้าปล่อยให้กัดกินผลปาล์มจะทำความเสียหายต่อผลผลิตปีละ 1.1-2.5 ตัน คิดเป็นมูลค่าความสูญเสียประมาณ 2,750-6,250 บาท ขณะเดียวกันเกษตรกรยังจะเสียเงินค่าซื้อสารเคมีและจ้างแรงงานวางยากำจัดหนู ทำให้มีต้นทุนสูงขึ้นอีก 700-1,400 บาทด้วย

นายเกรียงศักดิ์ หามะฤทธิ์ นักสัตววิทยาปฏิบัติการ สำนักวิจัยพัฒนา การอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร หัวหน้าทีมนักวิจัย “โครงการใช้นกแสกควบคุมประชากรหนูในสวนปาล์มน้ำมัน” กล่าวว่า เมื่อปี พ.ศ. 2537 ได้ศึกษาวิจัยและทดลองใช้นกแสกควบคุมหนูในสวนปาล์มน้ำมันนำร่องในสวนปาล์ม เอกชนที่  อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี พื้นที่ 15,000 ไร่ เริ่มต้นจากพ่อ-แม่นกแสก 2 ตัว พร้อมสร้างรังเทียมจำนวน 15 รัง เพื่อให้นกแสกใช้พักนอนและเพาะขยายพันธุ์ ปี พ.ศ. 2543-2544 นกแสกได้เข้าใช้รังเทียมวางไข่มากขึ้น โครงการฯจึงเพิ่มจำนวนรังนกเป็น 154 รัง พบว่า นกแสกเข้าใช้รังเพิ่มขึ้นทุกปีและประชากรนกแสกก็เพิ่มมากขึ้นประมาณ 700 ตัวใน ปี พ.ศ. 2547 ซึ่งสามารถกำจัดหนูที่กัดทำลายผลผลิตปาล์มน้ำมันได้ประมาณปีละ 245,000-490,000 ตัว

ผลสำรวจการกัดทำลายของหนูบนทะลายปาล์มสดที่ตัดลงมากองรวมไว้ พบร่องรอยการกัดทำลายน้อยมาก การกัดแทะบนทะลายในสภาพรุนแรงมีไม่เกิน 5% ทำให้เจ้าของสวนพึงพอใจมากเพราะทำให้ไม่ต้องใช้สารเคมีกำจัดหนู ปัจจุบันพื้นที่นำร่องใช้นกแสกควบคุมหนูในสวนปาล์มมีนกแสกประมาณ 1,200-1,300 ตัว ถือว่าประสบความสำเร็จมาก

ปัจจุบันได้ขยายผลโครงการฯไปสู่สวนปาล์มน้ำมันเอกชนในพื้นที่  อ.ปะทิว จ.ชุมพร และ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ อีกกว่า  12,000 ไร่  เริ่มต้นปล่อยนกแสก 30 ตัว พร้อมสร้างรังเทียมจากถังน้ำมันตั้งบนเสาสูงจากพื้นดินประมาณ 2.5 เมตร  พบว่า นกแสกมีการจับคู่ผสมพันธุ์และเข้าใช้รังเทียมเร็วมาก มีการขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว  ขณะนี้มีประชากรนกแสกในพื้นที่ดังกล่าวไม่น้อย กว่า 900 ตัว จำนวน 300 รัง คาดว่าจะสามารถกำจัดหนูได้ปีละกว่า 630,000 ตัว ช่วยลดความเสียหายของผลปาล์มที่อยู่ด้านนอกของทะลายที่ถูกกัดกินมากกว่า 25% ขึ้นไป โดยมีจำนวนลดลงอย่างเห็นได้ชัด ประมาณ 7% จากเดิมที่พบถึง 10-20% และช่วยลดค่าใช้จ่ายค่าสารเคมีกำจัดหนูได้ถึง 1 ล้านบาทต่อหมื่นไร่ต่อปี

โครงการใช้นกแสกควบคุมประชากรหนูในสวนปาล์มน้ำมัน ได้รับรางวัลด้านสิ่งแวดล้อมจากมูลนิธิฟอร์ดแห่งประเทศไทย ขณะนี้มีเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่จังหวัดสงขลา สุราษฎร์ธานี ชุมพร และกระบี่  นำนกแสกไปใช้ควบคุมหนูในสวนปาล์มด้วย รวมทั้งนาข้าวใน จ.สระแก้ว  นอกจากนั้นยังมีเกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือสนใจจะนำนกแสกไปใช้ควบคุมหนูในแหล่งปลูกข้าวไร่ และสวนกาแฟด้วย ซึ่งต้องมีการศึกษาวิจัยถึงความเป็นไปได้อีกครั้งหนึ่ง

กลุ่มผู้ปลูกปาล์มน้ำมันสนใจที่จะใช้นกแสกควบคุมหนูในสวนปาล์ม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 08-1919-7964.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 23 กันยายน 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=347&contentID=21801

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology