͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

ยางพันธุ์ใหม่กรีดได้นานกว่า 30 ปี แนะรัฐเร่งต่อยอดเตรียมรับราคายางพุ่ง

เมื่อวันที่ 21 กันยายน 52

ยางพันธุ์ใหม่กรีดได้นานกว่า 30 ปี แนะรัฐเร่งต่อยอดเตรียมรับราคายางพุ่ง ยางพารา เป็นไม้ยืนต้นที่ทรงคุณค่าทางเศรษฐกิจ มีอายุยืนยาว เมื่อปลูกเป็นสวน ก็จะมีสภาพคล้ายป่า เสมือนกับการปลูกป่าที่สามารถโอบอุ้มความชื้น และนำพาให้สภาพแวดล้อมบริเวณนั้นมีความชุ่มชื้น เต็มไปด้วยความเขียวขจี ขณะเดียวกันถือเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ มีอนาคตทางการตลาดที่ก่อให้เกิดอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มากมาย ตลอดจนมีบทบาทสำคัญต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของเกษตรกรและผู้เกี่ยวข้อง กับยางพาราถึง 6 ล้านคน ขณะเดียวกันความต้องการยางในตลาดโลกก็ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมรถยนต์ทั้งในประเทศจีน อินเดีย และยุโรปตะวันออก

นอกจากนี้ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยยังสามารถเดินทางเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาค อินโดจีน ด้วยเส้นทางการค้าสายใหม่ เส้นทางอาร์ 9 จากมุกดาหาร และ อาร์ 12 จากนครพนม  ซึ่งธนาคารพัฒนาเอเชีย เรียกเส้นทางสายนี้ว่า “เส้นทางระเบียงเศรษฐกิจอินโดจีน” เพื่อใช้เป็นเส้นทางกระจายสินค้าสู่ประเทศในอินโดจีน ด้วยต้นทุนค่าขนส่งที่ต่ำกว่า และมีระยะเวลาที่สั้นกว่าเส้นทางเดิม จึงเป็นอีกช่องทางสำคัญที่ไทยจะส่งยางพาราไปยังประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้ายางพารารายใหญ่ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

ยางพารา จึงนับเป็นพืชเศรษฐกิจที่ควรได้รับการส่งเสริมอย่างยิ่ง และขณะนี้ราคาซื้อขายยางแผ่นดิบ ณ ตลาดกลางยางพารา อยู่ที่กิโลกรัมละ 67-69 บาท โดยมีการคาดการณ์ว่า ปลายปี พ.ศ. 2552 นี้ ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 80 บาท จากความต้องการของตลาดโลกที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เกษตรกรจากโครงการยางพารา 1 ล้านไร่ มีความพอใจกับต้นยางที่เติบโตดีได้มาตรฐาน และยางพาราก็สามารถทำให้เกษตรกรไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเหนือและอีสานมีรายได้ที่ดีกว่าการปลูก   พืชไร่ หรือไม้ผลเดิม ๆ ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่จะขยายพื้นที่ปลูกยางในภาคอีสานให้มากขึ้น กระทรวงเกษตรฯได้เตรียมนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การดำเนินโครงการไทยเข้มแข็ง

การขยายพื้นที่ปลูกยางพาราเป็นเรื่องสำคัญ แต่การเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้นก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน และการเลือกใช้  “ยางพันธุ์ดี” ก็ถือเป็น 1 ในหัวใจสำคัญของการเพิ่มผลผลิตดังกล่าว

น่าดีใจที่ประเทศไทยมีบริษัทเกษตรชั้นยอดที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และทุ่มทุนวิจัยพัฒนาสายพันธุ์ยางที่ดีอย่างต่อเนื่อง อย่างบริษัท เจริญโภคภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ จำกัด จนในที่สุดสามารถพัฒนาพันธุ์ยาง เจวีพี 80 ที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูงถึง 500 กิโลกรัมต่อปี

นายชิ้ม ชาวสวนยางใน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เล่ายืนยันว่า ได้ปลูกยางพาราพื้นเมือง พันธุ์เจวีพี 80 นี้มาแล้ว 36 ปี ถือเป็นสวนยางแห่งแรกที่ เจวีพี 80 มีอายุ 36  ปี และปัจจุบันยังกรีดได้ตามปกติและให้น้ำยางสม่ำเสมอ โดยสามารถกรีดได้ตั้งแต่ยางมีอายุ 6 ปี จึงไม่อยากโค่นปลูกใหม่ เพราะยังให้ผลผลิตดีอยู่

นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานกรรมการที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย บอกว่า จากที่นำชาวสวนยางเดินทางไปพิสูจน์ยางพาราพันธุ์ดังกล่าวของนายชิ้ม ก็มั่นใจในพันธุ์ยางนี้ว่ามีคุณสมบัติดีจริงจึงขอฝากหน่วยงานรัฐและนักวิจัยว่าถึงเวลาแล้วที่จะนำพันธุ์ยางดีของชาวบ้านมาต่อยอด ซึ่งนับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของชาวสวนยางพาราที่จะได้เลือกยางสายพันธุ์ใหม่.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 21 กันยายน 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=339&contentID=21417

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology