͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

เตือนเกษตรกรอย่าเสียสิทธิ์ เร่งขึ้นทะเบียนก่อน 30 กันยา

เมื่อวันที่ 17 กันยายน 52

เตือนเกษตรกรอย่าเสียสิทธิ์ เร่งขึ้นทะเบียนก่อน 30 กันยา

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการประกันราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง ปี 2552/53 และให้เกษตรกรมาขึ้นทะเบียนระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน จากนั้นจะมีการตรวจสอบข้อมูลและการประชาคมในแต่ละพื้นที่ ก่อนออกใบรับรองให้เกษตรกร เพื่อใช้ประกอบการทำสัญญาประกันราคากับ ธ.ก.ส. โดยกำหนดราคาประกันข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่กิโลกรัมละ 7.10 บาท และราคาประกันมันสำปะหลังที่กิโลกรัมละ 1.70 บาท

ด้าน นางนารีณัฐ รุณภัย รองเลขาธิการ สศก. กล่าวเพิ่มเติมถึงราคาตลาดอ้างอิงว่า จะมีการประกาศทุก 15 วัน ในวันที่ 1 และ 16 ของเดือน หากราคาตลาดอ้างอิงต่ำกว่าราคาประกัน เกษตรกรจะขอรับการชดเชยส่วนต่างของราคาประกันและราคาตลาดอ้างอิงจาก ธ.ก.ส. ในช่วงใดก็ได้ภายในเวลาประกัน ตามปริมาณที่ขึ้นทะเบียนและที่ทำสัญญาประกัน แต่ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ตันสำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ส่วนมันสำปะหลังไม่เกิน 100 ตัน โดยไม่ต้องส่งมอบสินค้า และเมื่อราคาผลผลิตสูงขึ้นค่อยเอาข้าวโพดหรือขุดมันออกขาย และรับค่าข้าวโพดหรือหัวมันจากโรงงานอีกครั้ง

ดังนั้น เกษตรกรต้องรักษาผลประโยชน์ของตนเองที่พึงได้รับจากมาตรการความช่วยเหลือของ รัฐ โดยการเร่งขึ้นทะเบียนเกษตรกร นำหลักฐานประกอบการขึ้นทะเบียนมาอย่างครบถ้วนและแจ้งข้อมูลที่เป็นจริง จากนั้นไปทำสัญญาประกันราคากับ ธ.ก.ส. แล้วติดตามการประกาศราคาตลาดอ้างอิงทุก 15 วัน เพื่อประกอบการตัดสินใจนำสัญญาประกันราคาไปใช้สิทธิประกัน โดยเกษตรกรสามารถรับเงินค่าชดเชยส่วนต่างมาใช้จ่ายได้ก่อนที่จะตัดสินใจขายผลผลิต และรอดูจังหวะราคาที่เหมาะสมในการขายผลผลิตให้กับโรงงาน ก่อนรับเงินค่าข้าวโพดหรือหัวมันอีกครั้ง

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 17 กันยายน 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=179157

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology