͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

ดัน 2 นโยบายเร่งด่วนยางพารา กรุยทางขายคาร์บอนเครดิต ผสมน้ำยางมะตอยสร้างทาง

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 52

ดัน 2 นโยบายเร่งด่วนยางพารา กรุยทางขายคาร์บอนเครดิต ผสมน้ำยางมะตอยสร้างทาง

นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯเตรียมผลักดันนโยบายยางพารา 2 ประเด็น โดยประเด็นแรก เป็นการผลักดันอย่างเร่งด่วนให้การปลูกยางพาราของไทยเข้าโครงการกลไกการพัฒนาที่สะอาดตามสนธิสัญญาเกียวโต เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางมีรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิต เนื่องจากสภาพสวนยางและพืชยืนต้นทางเศรษฐกิจอื่นๆ ของไทย มีสภาพเป็นป่าตามคำจำกัดความของข้อตกลงตามสนธิสัญญาเกียวโต คือ มีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 1 ไร่ มีเรือนยอดปกคลุมร้อยละ 30 และมีความสูง 3 เมตร ดังนั้นจึงสั่งการให้กรมวิชาการเกษตรประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และองค์การสวนยาง เพื่อนำเสนอโครงการปลูกป่า(ด้วยพืชเศรษฐกิจ) ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามสนธิสัญญา เพื่อก่อให้เกิดรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตให้แก่เกษตรกรต่อไป โดยเริ่มต้นที่พืชยางพาราก่อน

ประเด็นที่สอง ผลักดันให้มีการใช้ยางธรรมชาติผสมยางมะตอยเพื่อใช้ในการสร้างทาง สถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตรได้ศึกษาและทดสอบการใช้ยางธรรมชาติผสมยางมะตอย เพื่อใช้ในการสร้างทาง ร่วมกับกรมทางหลวง พบว่า การผสมยางธรรมชาติร้อยละ 5 จะเหมาะสมที่สุด โดยมีต้นทุนการก่อสร้างเฉพาะส่วนผิวทางเพิ่มขึ้นเพียง ร้อยละ 6 ในขณะที่มีคุณสมบัติอื่นๆ ที่ดีกว่า รวมทั้งมีอายุการใช้งานนานกว่า คุ้มค่าต่อการลงทุนที่เพิ่มขึ้น แต่ก่อนนี้ยังไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้เพราะยังไม่ได้วิจัยและออกแบบอุปกรณ์ ในการผสมยางธรรมชาติกับยางมะตอย แต่ปัจจุบันได้วิจัยและออกแบบใช้ในเชิงพาณิชย์ได้แล้ว ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้แจ้งกระทรวงคมนาคม เพื่อไปใช้ในการกำหนดรายละเอียดการสร้างทางต่อไป รวมทั้งคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติได้เห็นชอบในหลักการ

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 11 สิงหาคม 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=173916

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology