͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

เร่งรัด 'สวนยาง' ซื้อขายคาร์บอนเครดิต

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 52

เร่งรัด 'สวนยาง' ซื้อขายคาร์บอนเครดิต นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า  กระทรวงเกษตรฯได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรเร่งประสานองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อมูล และจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับการนำสวนยางพาราของไทยเข้าสู่ระบบการซื้อขายคาร์บอนเครดิต โดยให้นำเสนอโครงการต่อที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯภายใน 1 เดือนนี้

“ยางพาราเป็นไม้ปลูกที่มีประสิทธิภาพ การดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ไม่น้อยกว่าระบบของไม้ป่าเขตร้อน ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าชเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศได้ จากผลการศึกษาวิจัยของศูนย์วิจัยยางฉะเชิงเทรา กรมวิชาการเกษตร พบว่า สวนยางพาราอายุ 25 ปี ให้มวลชีวภาพได้ประมาณ 49 เมตริกตันต่อไร่ และช่วยเก็บสารคาร์บอนได้ 43 เมตริกตันต่อไร่ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะผลักดันเข้าสู่ระบบซื้อ ขายคาร์บอนเครดิต เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มสูงขึ้น ไม่เฉพาะผู้ปลูกยางพาราเท่านั้น ยังอาจขยายผลไปสู่ไม้ยืนต้นชนิดอื่น ๆ  อีกด้วย” รมช. เกษตรและสหกรณ์ กล่าว

ด้านนายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า หากไทยจะเสนอโครงการปลูกป่าโดยใช้พืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูง เช่น ยางพารา ให้สามารถขายคาร์บอนเครดิต ได้นั้น ถือว่ามีโอกาสสูงเพราะการปลูกสร้างสวนยางใหม่ของไทย เข้าข่ายการปลูกฟื้นฟูป่าทดแทนพื้นที่ที่ถูกทำลาย หรือเข้าข่ายการปลูกป่าใหม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

“กรณีสวนยางที่ปลูกไปแล้วนั้น กรมวิชาการเกษตรจะพยายามเจรจาให้เข้าข่ายการลดการทำลายป่า (Deforestation) โดยใช้เหตุผลว่า  การปลูกแทนยางพาราด้วยยางพารา เป็นการต่ออายุสภาพป่า หากปลูกทดแทนด้วยพืชไร่อื่น ๆ เช่น ข้าวโพด และอ้อย จะเสมือนเป็นการลดพื้นที่ป่า ดังนั้น สวนยางที่ปลูกแทนควรได้รับผลประโยชน์นี้ โดยกระทรวงเกษตรฯจะใช้พื้นที่สวนยางขององค์การสวนยาง (อสย.) จำนวน 34,000 ไร่ เป็นพื้นที่นำร่องเสนอโครงการฯกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ก่อน” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 3 สิงหาคม 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=339&contentID=11772

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology