͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

ปิดประตูซาอุ พณ.ชี้มีกฎห้ามต่างชาติแย่งทำนา

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 52

ปิดประตูซาอุ พณ.ชี้มีกฎห้ามต่างชาติแย่งทำนา "คุณิสสร"เผยกฎหมายต่างด้าวระบุชัด บัญญัติไว้ปิดประตูตาย ห้ามต่างชาติลงทุนอาชีพการเกษตรทำนา-เลี้ยงสัตว์ในไทยเพราะเหตุเป็นธุรกิจสงวนไว้สำหรับชาวไทย แต่รับมีช่องว่าง สามารถถือหุ้นบริษัทต่ำกว่า 49.99% ได้ พร้อมเอ็กซเรย์บริษัทนอมินีร่างทรง และที่ถือหุ้นปิ่มกฎหมาย 40-49% แอบทำธุรกิจหรือไม่ พร้อมแนะชาติอาหรับหากกลัวขาดแคลนอาหาร ให้เปิดนำเข้าเพิ่มไทยพร้อมส่งออกเต็มที่

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่กรมฒนาธุรกิจการค้า นายคณิสสร นาวานุเคราะห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยกรณีกลุ่มทุนอาหรับสนใจลงทุนธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสัตว์ และทำนาในไทย ว่า พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ระบุไว้ชัดเจนว่าคนต่างชาติไม่สามารถเข้ามาลงทุนทำธุรกิจทำนา และเลี้ยงสัตว์ในประเทศไทยได้ เพราะถือเป็นธุรกิจต้องห้ามของคนต่างชาติ ที่ถูกกำหนดไว้ในบัญชี 1 ให้สงวนสำหรับคนไทยเท่านั้น ดังนั้นกลุ่มประเทศ คณะมนตรีความมั่นคงรัฐอ่าวอาหรับ (จีซีซี) 6 ประเทศ ได้แก่ กาตาร์ โอมาน สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ บาห์เรน คูเวต และซาอุดีอาระเบีย ที่แสดง ความสนใจเข้ามาทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ และ ทำนาปลูก ข้าวในไทย ไม่สามารถทำได้ตามกฎหมายฉบับนี้

“ต่างชาติไม่สามารถเข้ามาทำนา เลี้ยงสัตว์ในไทยได้ เพราะผิดกฎหมาย แต่ถ้าอยากได้อาหารเพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารให้กับประเทศของตนเอง ไม่จำเป็นต้องมาทำเอง ซื้อจากเราก็ได้ เราพร้อมขายให้ หากต้องการปริมาณ หรือคุณภาพพิเศษ ก็สามารถบอกมาได้ เป็นเรื่องของการเจรจาทำธุรกิจกับคนไทย โดยการได้มาซึ่งอาหาร มีหลายวิธีที่ทำได้ เราพร้อมสนับสนุน”

นายคณิสสร กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีต่างชาติจะเข้ามาลงทุนผ่านการส่งเสริมการลงทุนจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ไม่สามารถทำได้ แต่กฎหมายยังเปิดช่องเอาไว้ว่าหากต่างชาติถือหุ้นไม่เกิน 49.99% ตามที่กฎหมายกำหนด ก็ถือว่าธุรกิจนั้นยังเป็นของคนไทย และสามารถทำธุรกิจอะไรก็ได้ในประเทศไทย รวมถึงการทำนาและเลี้ยงสัตว์ หากเกิดกรณี   ที่คนต่างชาติเข้ามาถือหุ้นไม่เกินที่กฎหมายกำหนด และไปลงทุนซื้อที่ดินเพื่อทำนาและเลี้ยงสัตว์ ก็ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายได้อนุญาตไว้ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องของนโยบายภาครัฐที่จะกำหนดออกมาว่าจะเอาอย่างไร เพราะกฎหมายเขียนไว้อย่างนี้ หากจะห้ามก็ต้องไปแก้ไขกฎหมาย

อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวกรมฯ ต้องจับตาเพราะอาจมีต่างชาติอาศัยช่องว่างตรงนี้ใช้คนไทยถือหุ้นแทน แล้วเข้ามาทำธุรกิจ ซึ่งกรมฯ จะมีการตรวจสอบ อย่างเต็มที่ และที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบในส่วน ของบริษัทที่มีต่างชาติถือหุ้นจำนวนกว่า 6 หมื่นบริษัทอยู่แล้ว และเน้นไปที่บริษัทที่มีคนต่างชาติถือหุ้นตั้งแต่ 40-49.99% เพราะถือเป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งยังไม่พบว่ามีการเข้ามาลงทุนทำนา เลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้กรมฯยังได้ตรวจสอบร่วมกับกรมที่ดิน และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในการตรวจสอบบริษัทที่มีคนต่างชาติถือหุ้น และถือครองที่ดิน ซึ่งพบว่ามีประมาณ 1,500 ราย และลงพื้นที่ตรวจสอบ 300 ราย พบว่า ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนทำที่อยู่อาศัย บ้านพัก และคอนโดมิเนียม  

ด้าน นายสารสิน วีระผล รองกรรม การผู้จัดการใหญ่บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) กล่าวว่า กลุ่มประเทศอาหรับ 6 ประเทศ ที่จะเข้ามาทำนาในไทยนั้น ควรจะเข้ามาซื้อสินค้าเกษตรในไทยจะดีที่สุดเพื่อร่วมเป็นคู่ค้า ทางธุรกิจ   ในระยะยาว เพราะไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมที่มีศักยภาพการทำเกษตรสูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น และเห็นว่ากลุ่มประเทศอาหรับอาจจะเข้าเป็นคู่ค้าทางธุรกิจในไทยมากกว่าเข้ามาลงทุนทำนา เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มประเทศอาหรับได้เข้ามาลงทุนซื้อที่ดินเพื่อทำนาในประเทศเพื่อนบ้านของไทย เช่น พม่า ลาว และเวียดนาม เป็นต้น แต่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะไม่มีความถนัดในการทำเกษตรกรรม

อีกด้านหนึ่งที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 (บน.6) วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการเปิดโอกาสให้นักลงทุนชาวต่างประเทศเข้ามาลงทุนด้านเกษตรกรรมในประเทศไทยหลังกลุ่มประเทศคณะมนตรีความมั่นคงอ่าวอาหรับ (จีจีซี) 6 ประเทศ ทำหนังสือถึงทางการไทยเพื่อแสดงความสนใจในการเข้ามาทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์และ ทำนาปลูกข้าว ว่า กำลังให้ผู้เกี่ยวข้องดูรูปแบบ  อยู่ หากเป็นการเข้ามาลงทุน มาสนับสนุนด้านเทคโนโลยี หรือแปรรูปสินค้าเกษตร หรือมีการทำสัญญาซื้อสินค้าเกษตร อย่างนี้ทำได้ เมื่อถามย้ำว่า จะไม่มีการให้ต่างประเทศเช่าที่ดินเพื่อทำนาใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องที่ดินก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายไทย.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 24 มิถุนายน 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=310&contentID=4781

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology