͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

ทางรอดเกษตรกร ภายใต้เปิดเสรีการค้า

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 52

ทางรอดเกษตรกร ภายใต้เปิดเสรีการค้า

1ม.ค. 53 สินค้าเกษตรรายตัวจะมีภาษีนำเข้าเป็น 0% เนื่องจากการเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ)

เพื่อให้เกษตรกรและภาคเอกชนได้เตรียมตัวรับมือ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) จึงจัดสัมมนาให้ความรู้ เรื่องกองทุนเอฟทีเอนำเกษตรไทยพ้นภัยเศรษฐกิจ

ปี"47 รัฐบาลได้มีการจัดตั้งกองทุนเอฟทีเอ มีทุนประเดิม 540 ล้านบาท เพื่อเป็นกองทุนปรับโครงสร้างภาคการผลิตภาคการเกษตร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ เกษตรกรที่ต้องการรับความช่วยเหลือจะต้องรวมกลุ่มยื่นขอผ่านส่วนราชการ

ปัจจุบันอนุมัติไปแล้ว 11 โครงการ วงเงิน 293 ล้านบาท แยกเป็นเงินจ่ายขาด 205 ล้านบาท และเป็นเงินทุนหมุนเวียน 88 ซึ่งแต่ละหน่วยงานจะต้องทยอยคืนตามระยะเวลาที่กำหนด โดยไม่มีดอกเบี้ย

นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเอฟทีเอ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ ภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกร ในส่วนของภาครัฐนั้นมีบทบาทสำคัญคือการเจรจาต่อรองกับประเทศคู่ค้า ซึ่งต้องยอมรับว่าจะมีทั้งผู้ที่ได้ประโยชน์ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเอกชน และเสียประโยชน์ ส่วนใหญ่จะเป็นเกษตรกร

สำหรับสินค้าเกษตรที่จะอยู่ภายใต้เอฟทีเอต้องปรับโครงสร้างการผลิต ปรับคุณภาพมาตรฐาน ขณะนี้มีสินค้าที่อยู่ระหว่างการพิจารณา คือ กาแฟ พริกไทย และสมุนไพร

รวมทั้งกองทุนจะเข้าไปช่วยเหลือสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากเอฟทีเอโดยตรง คือ มะพร้าว ข้าวโพด ถั่วเหลือง หม่อนไหม เป็นต้น ซึ่งสินค้าต่างๆ เหล่านี้จะเห็นผลกระทบที่ชัดเจนในอนาคต หากไม่เตรียมพร้อม และปรับตัวล่วงหน้าจะส่งผลให้ผู้ผลิตเหล่านี้หายไป

ด้าน นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักสิทธิประโยชน์ทางการค้ากรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในกลุ่มของผู้เสียประโยชน์ไม่เพียงแต่จะเป็นกลุ่มเกษตรกรเท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มอุตสาหกรรมหลายสินค้าที่เสียผลประโยชน์เช่นกัน

กระทรวงพาณิชย์จึงมีการจัดตั้งกองทุนเอฟทีเอ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มอุตสาหกรรมตั้งแต่ปี"50 วงเงิน 240 ล้านบาท โดยพิจารณาโครงการที่มีศักยภาพเพื่อปรับโครงสร้างให้ดีขึ้นจริง มีผลงานวิจัยรองรับ ผู้ขอรับเงินช่วยเหลือจะต้องรวมตัวยื่นข้อเสนอผ่านสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ ไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

ปัจจุบันให้การช่วยเหลือไปแล้ว 19 โครง การ วงเงิน 163 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาอีก 7 โครงการวงเงิน 60 ล้านบาท ดังนั้นในปี"53 จึงเสนอของบประมาณเพื่อนำมาสมทบอีก 300 ล้านบาท

นายวีรชัย วงศ์บุญสิน ประธานคณะทำงานติดตามผลกระทบการเปิดเขตการค้าเสรี สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่ทุกภาคส่วนจะอยู่ได้ภายใต้เอฟทีเอที่สำคัญคือ

1.ต้องรู้ข้อมูลกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไป มีการวิจัยพัฒนา สนับสนุนการรวมตัวของเกษตรกร อุตสาหกรรมในห่วงโซ่ ซึ่งจะทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิต และทำให้ข้อมูลข่าวสารกระจายถึงกลุ่มผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว

2.ปรับมาตรฐานการผลิต โดยรัฐต้องเปลี่ยนบทบาทจากผู้ให้การสนับสนุนมาเป็นผู้ดำเนินการ เกษตรกรทุกคนต้องผ่านมาตรฐานขั้นพื้นฐาน ไม่คิดว่าเงื่อนไขทางการค้าที่เกิดขึ้นเป็นมาตรการกีดกันทางการค้า แต่เป็นมาตรการส่งเสริมผู้บริโภค

3.กลุ่มผู้ผลิตที่แข็งแกร่ง มีมาตรการการผลิตที่ดีอยู่แล้วจะต้องผลิตสินค้าที่สูงกว่ามาตรฐานในปัจจุบัน เพื่อสร้างอำนาจต่อรองการแข่งขันทางการค้าที่สูงขึ้น และ

4.มีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเอกชนอยู่ระหว่างทำมาตรฐาน Thai GAP แต่ต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลด้วย

สรุปว่า ยิ่งปรับตัวและเตรียมมาตรการรับมือได้เร็วเท่าไร ทางรอดของเกษตรกรไทยย่อมมีมากขึ้น

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด วันที่ 18 มิถุนายน 2552
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TURObFkyOHpNREU0TURZMU1nPT0=§ionid=TURNd05RPT0=&day=TWpBd09TMHdOaTB4T0E9PQ==

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology