͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

ผุดโครงการโรงปุ๋ยในแปลงนา ปลูกพืชปุ๋ยสดใช้แทนปุ๋ยยูเรีย

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 52

ผุดโครงการโรงปุ๋ยในแปลงนา ปลูกพืชปุ๋ยสดใช้แทนปุ๋ยยูเรีย นายบัณฑิต ตันศิริ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า ในสภาวะที่น้ำมันเชื้อเพลิงราคาแพงและนับวันจะหมดไปนั้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตปุ๋ยเคมี ซึ่งเชื่อมั่นว่าในอนาคตปุ๋ยเคมีจะมีราคาสูงขึ้นมาก ดังนั้น กรมพัฒนาที่ดินจึงได้จัดทำโครงการ โรงปุ๋ยในแปลงนาขึ้น โดยส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชปุ๋ยสด เช่น ถั่วพร้า ปอเทือง ที่มีคุณสมบัติในการตรึงไนโตรเจนจากอากาศมากักเก็บไว้ในดินผลิตเป็นปุ๋ยไนโตรเจนได้ 100%
 
โดยการปลูกพืชปุ๋ยสดนั้นเกษตรกรลงทุนค่าเมล็ดพันธุ์ถั่วเพียงไร่ละประมาณ 150-200 บาทเท่านั้น แต่สามารถผลิตปุ๋ยไนโตรเจนเทียบเท่าปุ๋ยยูเรียประมาณ 30-50 กิโลกรัม/ไร่ เป็นการประหยัดงบประมาณในการซื้อปุ๋ยเคมีจากต่างประเทศได้ปีละไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวนอกจากจะช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนในการซื้อปุ๋ยเคมีลงได้แล้ว ยังสามารถผลิตปุ๋ยไว้ใช้เอง พร้อมทั้งได้ปรับปรุงบำรุงดิน เพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดินได้อีกทางหนึ่ง
 
“นอกจากนี้กรมพัฒนาที่ดินจะเร่งศึกษาวิจัยเพื่อคิดค้นนวัตกรรมในการผลิตเทคโนโลยีชีวภาพมาใช้ทดแทนปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตร ตลอดจนสารกำจัดแมลงศัตรูพืช ที่สามารถถ่ายทอดสู่เกษตรกรให้นำไปผลิตและใช้ได้เอง ซึ่งก่อให้เกิดความมั่นคงในอาชีพ ที่สำคัญคือช่วยให้เกษตรกรมีทรัพยากรดินที่อุดมสมบูรณ์ไว้สำหรับเพาะปลูกอย่างยั่งยืน นำมาสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเกษตรกรไทยทั่วประเทศ” อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าว

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 10 มิถุนายน 2552
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=201595&NewsType=1&Template=1

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology