͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

ประกาศลดส่งออกยางพารา เกษตรตั้งเป้า 7 แสนตันแก้วิกฤติราคาร่วงหนัก

เมื่อวันที่ 12 มกราคม 52

ประกาศลดส่งออกยางพารา เกษตรตั้งเป้า 7 แสนตันแก้วิกฤติราคาร่วงหนัก นายชาติชาย พุคยาภรณ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการควบคุมยางว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในการดำเนินมาตรการตามข้อตกลงของสภาความร่วมมือด้านยาง 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่กำหนดให้ประเทศสมาชิกดำเนินมาตรการลดการส่งออกยางในปี 2552 รวม 700,000 ตัน หรือคิดเป็น 10% จากปริมาณการส่งออกในปี 2550 เพื่อแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำในขณะนี้

ทั้งนี้ได้แบ่งการดำเนินการเป็น 4 ไตรมาส โดยในช่วง 3 เดือนแรก (มค.-มี.ค.) ให้ลดลง 270,000 ตัน หรือคิดเป็น 40% ของเป้าหมายการส่งออกทั้งปี โดยแบ่งสัดส่วนการส่งออกของแต่ละประเทศ ดังนี้ อินโดนีเซีย 11,600 ตัน มาเลเซีย 22,000 ตัน และประเทศไทยส่งออกได้จำนวน 132,000 ตัน ซึ่งไทยจะลดสัดส่วนการส่งออกเป็นรายเดือน ทำให้ปริมาณการส่งออกหรือมียางเก็บในสต็อกในช่วง 3 เดือน ดังนี้ เดือนมกราคม 40% คิดเป็นจำนวน 52,800 ตัน กุมภาพันธ์ 35% คิดเป็นจำนวน 46,200 ตัน และเดือนมีนาคม 25% คิดเป็นจำนวน 33,000 ตัน ซึ่งมาตรการดังกล่าวนี้จะสามารถลดปริมาณการส่งออกยางได้ตามเป้าหมาย

ด้าน นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากมาตรการระยะสั้นดังกล่าวที่เป็นการสร้างความร่วมมือระหว่าง 3 ประเทศผู้ส่งออกยางรายใหญ่แล้ว กระทรวงเกษตรฯ ยังเตรียมแผนระยะยาวเพื่อแก้ไขปัญหายางทั้งระบบและถาวร โดยกระทรวงเกษตรฯ จะเสนอโครงการสนับสนุนสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางเพิ่มมูลค่าเพื่อแก้ไขปัญหาราคายางสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 13 มกราคม ในวงเงินงบประมาณจำนวน 4,200 ล้าน

โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ปล่อยเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยให้แก่สถาบันเกษตรกร หรือองค์กรเกษตรกร ในการลงทุนแปรรูปเพิ่มมูลค่ายางที่รับซื้อจากเกษตรกร หรือสมาชิกที่เป็นสถาบันเกษตรกรในราคาตลาด โดยวงเงินจำนวน 4,000 ล้านบาท นั้นจะเป็นเงินทุนหมุนเวียนที่จะนำมาดำเนินธุรกิจ เช่น การรมควันทำยางก้อน ยางแผ่น ยางแท่ง หรือเก็บวัตถุดิบยางไว้ในสต็อกในภาวะที่ราคายางยังขายไม่ได้ราคา ส่วนเงินอีกจำนวน 200 ล้านบาทนั้น จะเป็นงบจ่ายขาดจากการที่รัฐจะชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ ธ.ก.ส.

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 12 มกราคม 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=142608

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology