͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

กรมประมงเตือนเฝ้าระวัง โรคปลาช่วงเปลี่ยนถ่ายฤดูกาล

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 52

กรมประมงเตือนเฝ้าระวัง โรคปลาช่วงเปลี่ยนถ่ายฤดูกาล ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวถึงโรคปลาในช่วงเปลี่ยนถ่ายฤดูกาลว่า ในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาประเทศไทย มีผลต่ออุณหภูมิและน้ำสูงมาก และปริมาณน้ำในแหล่งน้ำต่าง ๆ ลดน้อยลง เมื่อมีฝนตกอุณหภูมิอากาศและน้ำจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากสภาวะดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อสุขภาพปลาที่เลี้ยงโดยตรง โดยปลาจะทำให้ปลาเครียด อ่อนแอและรับเชื้อโรคได้ง่าย โดยเฉพาะการเลี้ยงปลาในกระชังในแม่น้ำ ลำน้ำ อ่างเก็บน้ำและคลองส่งน้ำต่าง ๆ
 
โรคปลาที่ควรเฝ้าระวังในช่วงนี้ ได้แก่ โรคที่เกิดจากปรสิต เช่น เห็บระฆัง ปลิงใส เห็บปลา เหาปลาและหมัดหมา เป็นต้น โรคที่เกิดจากแบคทีเรีย เช่น สเตรปโตคอสคัส แอโรโมแนส เป็นต้น แบคทีเรียดังกล่าว จัดอยู่ในกลุ่มแบคทีเรียนักฉวยโอกาสที่สามารถพบได้ตามแหล่งน้ำทั่วไป โดยจะเข้าไปทำอันตรายปลาเมื่อปลาอ่อนแอและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว โดยผ่านกระแสเลือดที่กระจายอยู่ทั่วไป ซึ่งความรุนแรงของโรคนั้นขึ้นอยู่กับสภาพความแข็งแรงของปลา การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสภาพแวดล้อม หรือคุณสมบัติน้ำไม่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของปลา
 
โดยปลาที่มีปรสิต จะมีลักษณะอาการเช่น ว่ายน้ำผิดปกติ หายใจถี่ มีจุดแดง แผลถลอกตามผิวลำตัว เป็นต้น และปลาที่ติดเชื้อแบคทีเรีย จะมีอาการ ซึม ไม่กินอาหาร มีแผลเลือดออกตามลำตัวและอวัยวะต่าง ๆ มีตุ่มฝีที่บริเวณใต้คางและผิวลำตัว ตาขุ่น เป็นต้น
 
ส่วนการรักษาโรคปรสิตนั้น ทำโดยการตัดวงจรชีวิตปรสิต กำจัดตะกอนและเศษอาหารที่เกาะติดตามกระชัง และใช้สารเคมี เช่น ไตรคลอร์ฟอน อัตราการใช้ 0.5-0.75 ส่วนในล้าน ทำทุก ๆ 1 สัปดาห์ ทำซ้ำติดต่อกัน 3-4 ครั้ง หรือ ฟอร์มาลินเข้มข้น 200-250 ส่วนในล้านส่วน นาน 15-30 นาที ถ้าเป็นปลาที่เลี้ยงในกระชัง ควรนำปลาขึ้นจากกระชังชั่วคราว พักใส่ถังหรือบ่อหรือใช้ผ้าใบล้อมกระชังปลาแล้วจึงใช้สารเคมีไม่ควรใส่ยาหรือสารเคมีลงในแหล่งน้ำโดยตรง ส่วนปลาที่ติดเชื้อแบคทีเรีย ให้ใช้ต้านจุลชีพ ผสมอาหารให้กินตามคำแนะนำในฉลากยา
 
หากเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องโรคสัตว์น้ำสามารถติดต่อขอคำแนะนำในเรื่องการดูแลสุขภาพสัตว์น้ำได้จากสำนักงานประมงจังหวัด ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมง สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงหรือสถาบันวิจัยสุขภาพสัตว์น้ำจืด โทร. 0-2579-4122 หรือสถาบันวิจัยสุขภาพสัตว์น้ำชายฝั่ง โทรศัพท์หมายเลข 0-7433-4516-8.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 28 พฤษภาคม 2552
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=200344&NewsType=1&Template=1

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology