͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

เกษตรฯเพิ่มมาตรการคุมเข้ม 'สารเคมีเกษตร' นำเข้าจากจีน-อินเดีย

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 52

เกษตรฯเพิ่มมาตรการคุมเข้ม 'สารเคมีเกษตร' นำเข้าจากจีน-อินเดีย นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า เนื่องจากไทยมีการนำเข้าสารเคมีทางการเกษตรจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยปีที่ผ่านมามีปริมาณการ นำเข้าสารเคมีทางการเกษตรที่ใช้กับพืชสูงถึง 66,563 ตัน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 19,181.75 ล้านบาท สำหรับสารเคมีที่นำเข้าส่วนใหญ่เป็นสารกำจัดวัชพืช รองลงมา คือ สารกำจัดแมลง สารป้องกันและกำจัดโรคพืช และสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งนำเข้าจากจีนและอินเดียเป็นหลัก 

กรมวิชาการเกษตรจึงได้มอบหมายให้สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการควบคุมกำกับดูแลสารเคมีทางการเกษตร ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2551 โดยให้ควบคุมอย่างเข้มงวดทุกขั้นตอนตั้งแต่การขึ้นทะเบียน การนำเข้า ตลอดจนการจำหน่าย ซึ่งได้กำหนดแนวทางดำเนินการไว้ 4 แนวทาง คือ 1.ตรวจสอบผู้นำเข้าทุกรายและขั้นตอนการนำเข้าทุกชิปเมนต์และทุกลอตว่า สารเคมีทางการเกษตรที่นำเข้าตรงตามที่ระบุในใบขออนุญาตนำเข้าหรือไม่ 2.ตรวจสอบผู้ส่งออกที่ประเทศต้นทาง โดยขอความร่วมมือสถานทูตไทย ณ ประเทศนั้น ๆ โดยเฉพาะจีนและอินเดีย ให้ช่วยประสานและตรวจสอบว่า มีโรงงานผู้ผลิตและผู้ส่งออกอยู่จริงหรือไม่ เพื่อให้ทราบแหล่งที่มาซึ่งจะช่วยป้องกันการสวมรอยลักลอบนำเข้า  3.ตรวจสอบโรงงานผู้ผลิตภายในประเทศ รวมถึงการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายที่มีผู้ยื่นขึ้นทะเบียนไว้แล้วกว่า 10,000 ชนิด เพื่อควบคุมการผลิตสารเคมีทางการเกษตรให้ได้มาตรฐาน และ 4.ติดตามตรวจสอบการจำหน่ายสารเคมีทางการเกษตรในท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 12 พฤษภาคม 2552
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=198742&NewsType=1&Template=1

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology