͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

อัด 43 ล้านสกัดลิ้นจี่ล้นตลาด เกษตรคาดผลผลิตเพิ่ม 50% เล็งกระจายออก 1.9 หมื่นตัน

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 52

อัด 43 ล้านสกัดลิ้นจี่ล้นตลาด เกษตรคาดผลผลิตเพิ่ม 50% เล็งกระจายออก 1.9 หมื่นตัน

นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เผยว่า จากการคาดการณ์สถานการณ์ผลผลิตลิ้นจี่ในปีนี้จะมากกว่าปีที่แล้วถึง 50% เนื่องจากอากาศร้อนจัด ทำให้ลิ้นจี่มีการสุกเร็วขึ้น และกระจุกตัวออกมามากในช่วงใกล้เคียงกันโดยเฉพาะเดือนพฤษภาคม โดยในปีนี้คาดว่าจะมีปริมาณลิ้นจี่ทั้งสิ้น 81,748 ตัน ซึ่งส่วนหนึ่งจะออกมามากในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือมีปริมาณถึง 69,191 ตัน ได้แก่ เชียงใหม่ 27,922 ตัน เชียงราย 18,252 ตัน พะเยา 14,496 ตัน และน่าน 4,183 ตัน

ดังนั้น เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ และช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้กำหนดมาตรการในการบริหารจัดการผลผลิตลิ้นจี่ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยตั้งเป้าหมายผลผลิตลิ้นจี่ส่วนเกินที่เกิดขึ้นประมาณ 19,500 ตัน ใน 3 มาตรการหลักด้วยกัน คือ 1. การเร่งรัดการกระจายผลผลิตภายในประเทศจำนวน 18,500 ตัน โดยจังหวัดเชียงใหม่จะดำเนินการจำนวน 5,000 ตัน จังหวัดพะเยา 6,000 ตัน จังหวัดเชียงราย 5,000 ตัน และจังหวัดน่าน 2,500 ตัน 2. การแปรรูปลิ้นจี่ เป้าหมาย 100 ตัน หรือคิดเป็น 1,000 ตันสด และ 3. การส่งเสริมการตลาดภายในประเทศ โดยจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และจังหวัดพะเยา ทั้งนี้ จะใช้งบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น 43,470,000 บาท แบ่งเป็นเงินจ่ายขาดจำนวน 39,470,000 บาท และเงินทุนหมุนเวียนจำนวน 4,000,000 บาท

นายธีระ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับพื้นที่ดำเนินการหลักใน 3 มาตรการดังกล่าวนั้นจะเน้นในจังหวัดแหล่งผลิตที่สำคัญใน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และน่าน โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ 1 พฤษภาคม - 10 มิถุนายน 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่ผลผลิตลิ้นจี่ออกมามากและเกิดการกระจุกตัว อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวเป็นการสนับสนุนและช่วยเหลือให้กลไกตลาดดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่เข้าไปแทรกแซงตลาดแต่อย่างใด

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 6 พฤษภาคม 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=160119

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology