͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

เปิดตัว 5 พืชพันธุ์ใหม่ให้ผลผลิตสูง

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 52

เปิดตัว 5 พืชพันธุ์ใหม่ให้ผลผลิตสูง กรมวิชาการเกษตร เป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ในการศึกษา วิจัยพัฒนา พืชและเครื่องจักรกลการเกษตร เพื่อแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการลดต้นทุนการผลิต  และเพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิตให้แก่เกษตรกร โดยเฉพาะการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์พืชชนิดต่าง ๆ 
 
ทั้งนี้ในแต่ละปีกรมวิชาการเกษตรจะมีพันธุ์พืชใหม่ ๆ ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ ปรับปรุงพันธุ์พืชออกมาเป็นพันธุ์แนะนำ หรือ พันธุ์รับรอง ออกสู่ไร่นาของเกษตรกรอย่างต่อเนื่องตลอดมา เฉพาะตั้งแต่ปี 2519-ปัจจุบัน กรมวิชาการเกษตรได้วิจัย พัฒนา และปรับปรุงพันธุ์พืชชนิดต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งพันธุ์รับรองและพันธุ์แนะนำที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการเกษตรของประเทศจำนวนมากกว่า 250 พันธุ์  
 
สำหรับในปี 2552 นี้กรมวิชาการเกษตร มีพันธุ์พืชใหม่ที่สำคัญซึ่งจะแนะนำให้เกษตรกร นำไปปลูกจำนวน  5  พันธุ์  ได้แก่  อ้อยพันธุ์อู่ทอง 8 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมพันธุ์นครสวรรค์ 3  มันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 9  กาแฟอาราบิก้าพันธุ์   เชียงใหม่ 80 และถั่วเขียวผิวดำพันธุ์ชัยนาท 80 โดย พันธุ์พืชทั้ง 5 พันธุ์มีลักษณะเด่น ดังนี้
 
อ้อยพันธุ์อู่ทอง  8  ศูนย์วิจัยพืชไร่สุพรรณบุรี ได้วิจัยและปรับปรุงพันธุ์อ้อยโดยการผสมข้ามพันธุ์อ้อยระหว่างพันธุ์แม่ K 84-200 กับพันธุ์พ่ออู่ทอง 3 ได้อ้อยโคลน 95-2-156 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้พันธุ์อ้อยที่ให้ผลผลิตน้ำ หนักและน้ำตาลสูง มีความหวานไม่ต่ำกว่า  12  ซีซี เอส และเหมาะสมสำหรับการปลูกในเขตชลประทาน จนได้อ้อยพันธุ์อู่ทอง 8 ซึ่งมีลักษณะเด่น คือ ให้ผลผลิตน้ำหนักเฉลี่ย  17.23 ตัน/ไร่ สูงกว่าพันธุ์ K 84-200 และพันธุ์อู่ทอง 3 ให้ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ย 2.63 ตันซีซีเอส / ไร่ และให้ผลผลิตน้ำตาลเฉลี่ยอ้อยปลูก 2.97 ตันซีซีเอส/ไร่  
 
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมพันธุ์นคร สวรรค์ 3  ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์  ได้วิจัยและปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมเพื่อให้ได้พันธุ์ใหม่ ที่ให้ผลผลิตสูง มีความทนทานแล้ง เพื่อเป็นพันธุ์แนะนำให้แก่เกษตรกร จนได้พันธุ์ที่มีคุณสมบัติตามต้องการ คือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมพันธุ์นครสวรรค์ 3 ซึ่งให้ผลผลิตสูงเฉลี่ย 1,106 กิโลกรัม/ไร่ สูงกว่าพันธุ์นครสวรรค์ 72 และนครสวรรค์ 2 รวมทั้งยังให้ผลผลิตที่ใกล้เคียงกับพันธุ์ลูกผสมการค้า มีความทนทานแล้งในระยะออกดอก โดยให้ผลผลิตเฉลี่ย 836 กิโลกรัม/ไร่ และสามารถเก็บเกี่ยวด้วยมือได้ง่าย
 
มันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 9 ศูนย์วิจัยพืชไร่ระยอง ได้วิจัยและปรับปรุงพันธุ์มันสำปะหลังเพื่อให้ได้พันธุ์ที่มีผลผลิตแป้งสูงและมีศักยภาพสูงในการนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้แก่  มันเส้น แป้งมัน และเอทานอล จนประสบความสำเร็จได้ มันสำปะหลังพันธุ์ระยอง  9  ซึ่งมีลักษณะเด่น คือ ให้ผลผลิตแป้งและผลผลิตมันแห้งสูงกว่าพันธุ์มาตรฐานในหลายพื้นที่ โดยให้ผลผลิตแป้ง 1.24 ตัน / ไร่  ผลผลิตมันแห้ง 2.11 ตัน / ไร่ และให้ผลผลิตเอทานอลสูงกว่าพันธุ์มาตรฐานทุกพันธุ์และทุกอายุเก็บเกี่ยว  
 
กาแฟอาราบิก้าพันธุ์เชียงใหม่ 80 ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ได้วิจัยและปรับปรุงพันธุ์กาแฟอาราบิก้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาพันธุ์กาแฟอาราบิก้าให้มีความต้านทานต่อโรคราสนิม ให้ผลผลิตสูง และมีคุณภาพดีเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค จนได้พันธุ์กาแฟอาราบิก้าเชียงใหม่ 80 ซึ่งมีความต้านทานโรคราสนิมสูง ให้ผลผลิตเมล็ดกาแฟดิบเฉลี่ย 5 ปี จำนวน  215  กิโลกรัม / ไร่ สูงกว่าพันธุ์ที่เกษตรกรปลูกโดยทั่วไป ให้ปริมาณสารกาแฟ green  bean  เกรด  A 81.3 - 87.3 เปอร์เซ็นต์ คุณภาพการชิมอยู่ในระดับ 6.5 - 7.0 คะแนน
 
ถั่วเขียวผิวดำพันธุ์ชัยนาท 80 ศูนย์วิจัยพืชไร่ชัยนาท ได้พัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ถั่วเขียวผิวดำโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงถั่วเขียวผิวดำให้มีผลผลิตสูงและเหมาะสำหรับเพาะถั่วงอก ใช้ระยะเวลาการวิจัยและปรับปรุงพันธุ์ตั้งแต่ปี 2532 -2546 ได้ถั่วเขียวผิวดำพันธุ์ชัยนาท 80 ให้ผลผลิตเฉลี่ย 250 กิโลกรัม / ไร่ ซึ่งสูงกว่าผลผลิตถั่วเขียวผิวดำเฉลี่ยทั้งประเทศ เหมาะสำหรับการเพาะถั่วงอก โดยให้น้ำหนักสดถั่วงอกสูงและรสชาติถั่วงอกหวานกว่าพันธุ์พิษณุโลก  2  มีความกรอบ  ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว  เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมเพาะถั่วงอก ที่สำคัญเป็นพันธุ์ที่ไม่มีขนที่ใบและฝักทำให้สามารถเก็บเกี่ยวได้ง่าย รวมทั้งยังสามารถปลูกได้ทุกฤดูและเหมาะสำหรับปลูกในสภาพการผลิตพืชไร่ทั่วไป   
 
พันธุ์พืชทั้ง 5 ชนิดนี้ กรมวิชาการเกษตรพร้อมจัดเตรียมพันธุ์ให้กับเกษตรกรผู้สนใจได้นำไปเพาะปลูกในฤดูกาลเพาะปลูกที่จะถึงนี้ หากเกษตรกรท่านใดมีความสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์วิจัย ซึ่งเป็นหน่วยงานเจ้าของผลงานการปรับปรุงพันธุ์พืชชนิดนั้น ๆ

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 4 พฤษภาคม 2552
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=197997&NewsType=1&Template=1

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology