͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

วิธีปลูกมะระหวานเพื่อเก็บยอด

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 52

วิธีปลูกมะระหวานเพื่อเก็บยอด มีถามเข้ามาว่าจะปลูกมะระหวาน หรือฟักม้งเพื่อเอายอดมาบริโภคและเก็บขายด้วย ทำอย่างไรดีถึงจะสามารถเก็บเกี่ยวยอดได้อย่างต่อเนื่อง
 
สอบถามผู้รู้แล้วเรื่องนี้ไม่ยากเย็นแต่ประการใด สามารถทำได้โดยที่ลงทุนไม่มากนัก เพียงมีพื้นที่และมีแหล่งน้ำเพียงพอในพื้นที่การปลูกก็จะบรรลุผลที่ต้องการได้อย่างไม่ลำบากยากเย็นแต่ประการใด มะระเครือ หรือซาโยเต้ พื้นที่ภาคกลาง เรียกว่า มะระหวาน และภาษาท้องถิ่นโดยทั่วไปเรียกว่า ฟักม้ง เป็นพืชพื้นเมืองของชาวออสเตรเลียปลูกไว้บริโภคในครัวเรือน ผลจะเล็กกว่าบ้านเรา เป็นไม้เถาเลื้อย สามารถเจริญเติบโตในสภาพอากาศเย็นและชุ่มชื้นเป็นพืชข้ามปี ลักษณะคล้ายพืชตระกูลแตง ลำต้น ใบ ยอดและมือจับคล้ายแตงกวาผสมกับฟักเขียว ดอก เกิดที่ขั้วระหว่างต้นกับก้านใบเป็นชนิดดอกช่อ เนื้อของผลเจริญมาจากฐานรองดอกที่ขยายใหญ่ไปหุ้มเมล็ดไว้ มีเมล็ดเพียงเมล็ดเดียวในผล เหมือนกับผลมะม่วง มะปราง
 
การปลูกขุดหลุมขนาด กว้าง  x  ยาว x ลึก ประมาณ 20-50 ซม. แล้วคลุกเคล้าดินด้วยเศษพืชและปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก หากต้องการปลูกเพื่อเก็บยอดอย่างเดียว ระยะปลูกระหว่างต้น ระหว่างแถวประมาณ 1x1 หรือ 1x2 เมตร ปลูกเป็นหลุม ๆ เรียงเป็นแถวติดต่อกันไปตามสภาพของพื้นที่และไม่ต้องทำค้างเพื่อสะดวกในการเก็บยอด
 
เมื่อลงดินแล้ว รดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง คอยกำจัดวัชพืช และใส่ปุ๋ยคอกบ้างเป็นระยะจนอายุประมาณ 2 เดือน ก็สามารถเก็บยอดจำหน่ายได้ เมื่อเก็บเกี่ยวระยะหนึ่ง ต้นและใบจะเริ่มโทรมลง ให้เด็ดใบแก่ที่มีสีเหลือง ใบแห้ง  ใบที่เป็นโรคออกให้หมด เติมปุ๋ยคอก รดน้ำ และกำจัดวัชพืช การเจริญเติบโตก็จะมีต่อไปได้อีกประมาณ 3-4  ปี  หลังจากเก็บผลผลิตเป็นที่พอใจแล้วหรือเห็นว่าโทรมมากหรือเข้าสู่ฤดูแล้ง ให้ตัดต้นเหนือดินออกให้หมดทิ้งให้พักตัว ใส่ปุ๋ยคอก พรวนดินรอบ ๆ และรดน้ำ มะระหวานก็จะเจริญงอกเป็นต้นใหม่ขึ้นมาให้เก็บเกี่ยวยอดได้อีกโดยไม่ต้องปลูกใหม่.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 1 พฤษภาคม 2552
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=197790&NewsType=1&Template=1

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology