͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

เพาะปูม้าในบ่อดินสำเร็จ แห่งแรกในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 52

เพาะปูม้าในบ่อดินสำเร็จ แห่งแรกในประเทศไทย

ก่อนหน้านี้หลายพื้นที่ได้เพาะพันธุ์ปูม้าแบบโรงเรือนประสบความสำเร็จมาแล้ว แต่ล่าสุดเป็นเรื่องที่น่ายินดีหลังจากที่ศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำ จ.เพชรบุรี ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี

ทดลองเพาะพันธุ์ปูม้าโดยใช้ระบบการเพาะเลี้ยงในบ่อดินที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติให้มากที่สุด ประสบผลสำเร็จเป็นครั้งแรกและแห่งแรกในประเทศไทย โดยนำแม่ปูไข่นอกกระดองไปปล่อย พบว่าแม่ปู 1 ตัวออกลูกได้ถึง 3 แสนตัว เลี้ยงดู 7 สัปดาห์มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของกระดอง 2 ซม. คาดว่าจะมีอัตรารอดสูง

เรื่องราวของคนไทยสามารถเพาะพันธุ์ปูม้าในบ่อดินประสบผลสำเร็จเป็นครั้งแรก ถูกเปิดเผยโดย ร.ต.สมนึก คงทรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำ จ.เพชรบุรี ว่า ก่อนหน้าชาวประมงพื้นที่บ้านแหลมผักเบี้ย ได้รวมกลุ่มตั้งเป็นธนาคารปู นำปูม้าที่ไข่นอกกระดองมาฝากที่ธนาคารปู เพื่อให้แม่ปูม้าได้ฟักเองโดยธรรมชาติ เขาเห็นว่าการที่ปูม้าฟักเองตามธรรมชาติจะทำให้อัตราการรอดของการฟักเป็นตัวนั้นน้อยมาก จึงขอรับปูม้าไข่นอกกระดองจากคณะกรรมการของธนาคารปูบ้านแหลมผักเบี้ยมาทดลองฟักในบ่อดินของศูนย์วิจัย ซึ่งบ่อที่สร้างขึ้นมาให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติให้มากที่สุด

ปรากฏว่าประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม คือแม่ปูม้าขนาดใหญ่ที่ฟักออกมาเป็นตัวจะได้ลูกปูม้าราว 3 แสนตัวต่อแม่ปูม้าไข่นอกกระดอง 1 ตัว ซึ่งศูนย์วิจัยถือเป็นผลสำเร็จแห่งแรกของประเทศไทย หรืออาจจะเป็นแห่งแรกในเอเชียก็เป็นได้ หลังจากที่ก่อนหน้าได้มีการเพาะพันธุ์ปูม้าเลี้ยงแบบโรงเรือนก็ทำสำเร็จมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ลูกปูราว 3 แสนที่ออกมา ศูนย์วิจัยคาดหวังเพียงว่าให้มีอัตราการรอดเป็นปูม้าขนาดเจริญวัยอยู่ในธรรมชาติเพียง 10% ก็ถือว่าประสบผลสำเร็จ แต่การที่จะนำลูกปูม้ามาเพาะเลี้ยงแบบบ่อดินยอมรับว่ายากต่อการดูแล เพราะเมื่อปูเจริญวัยขนาดอายุ 2 เดือน ก็จะลอกคราบ และจะกินกันเอง จึงต้องรีบปล่อยคืนสู่ธรรมชาติโดยเร็ว 

"ลูกปูที่ออกมาจากไข่ในบ่อทดลองของศูนย์วิจัยนั้น ในวัยอนุบาล เราจะให้อาหารสำเร็จรูปที่ศูนย์วิจัยได้คิดค้นทำขึ้นเอง โดยให้กินผสมกับไรน้ำเค็ม หรืออทีเมีย ที่ศูนย์วิจัยเราเพาะเลี้ยงไว้เพื่อการทดลองครั้งนี้เช่นกัน ปรากฏว่า เพาะเลี้ยงในบ่อดินได้อายุ 7 สัปดาห์ มีขนาดความกว้างของกระดองเฉลี่ยแล้วประมาณ 2 ซม. ซึ่งนับว่าใหญ่พอสมควร ขนาดนี้หากปล่อยลงในธรรมชาติจะมีอัตราการรอดและเจริญวัยในธรรมชาติได้มาก เมื่อปูลอกคราบครั้งหนึ่ง ขนาดก็จะใหญ่ขึ้นเท่าตัว" ร.ต.สมนึก กล่าว

เพื่อให้มีอัตรารอดสูง ศูนย์วิจัยได้ประชุมหารือกับคณะกรรมการธนาคารปู ที่มี นายไพฑูรย์ รื่นรวย ประธานคณะกรรมการ และเชิญนายชูชาติ ทรัพย์ทวี สมาชิก อบต.แหลมผักเบี้ย พร้อมประสานงานร่วมกับนายเชวง เนาวรัตน์ นายก อบต.แหลมผักเบี้ย ทำโครงการเสนอต่อ นายชาย พานิชพรพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี จึงได้รับการสนับสนุนโครงการเพาะพันธุ์ปูม้าในบ่อดิน และปล่อยพันธุ์ปูม้าคืนสู่ธรรมชาติป่าชายเลนหาดเลนแหลมหลวง เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2551 เป็นชุดแรก  เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 81 พรรษาในปีนี้ด้วย

ก็นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี อย่างน้อยต่อไปจะได้บรรเทาความขาดแคลนสัตว์น้ำในอ่าวไทยได้ระดับหนึ่ง

ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก วันที่ 7 มกราคม 2552
http://www.komchadluek.net/2009/01/07/x_agi_b001_330077.php?news_id=330077

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology