͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

ผู้ส่งออกไทยสนใจบุกตลาดอินเดีย

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 52

ผู้ส่งออกไทยสนใจบุกตลาดอินเดีย นายไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ รองกงสุลใหญ่ฝ่ายการพาณิชย์ ได้กล่าวภายหลังการสัมมนา export clinic สำหรับการเจาะตลาดอินเดียให้ประสบความสำเร็จ ที่โรงแรมแกรนด์มิราเคิล ว่าปัจจุบันอินเดียเป็นประเทศหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ยังรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจในเกณฑ์ที่สูง โดยในปี 2551 มีการขยายตัวถึง 7% ประกอบกับมีประชากรที่มีกำลังซื้อสูงมีมากถึง 300 ล้านคน จึงทำให้ผู้ส่งออกไทยจำนวนมากหันมาให้ความสนใจที่จะเจาะตลาดอินเดียกันมากขึ้น ขณะที่ตลาดอื่น ๆ เริ่มซบเซาอันเนื่องมาจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก
 
ตลาดอินเดียเป็นตลาดที่มีโอกาสมากในสินค้าหลายชนิด เช่น สินค้าเกษตรแปรรูป เนื่องจากเทคโนโลยีการเกษตรของอินเดียยังไม่ทันสมัย ประกอบกับยังไม่มีคู่แข่งจากประเทศอื่นเข้าไปทำตลาดมากนัก และคนอินเดียยังนิยมใช้ของนอก จึงเป็นโอกาสให้กับสินค้าไทยในหมวดสินค้าอาหารที่จะเข้าไปทำตลาด ไม่ว่าจะเป็น เครื่องแกงสำเร็จรูป น้ำกะทิ ข้าวเกรียบชนิดยังไม่ทอด โปรตีนเกษตร (คนอินเดียบริโภคอาหารมังสวิรัติ 60%) อาหารมังสวิรัติต่าง ๆ ขนมประเภท snack ลำไย และมังคุด เป็นต้น
 
นอกจากนั้นยังมีโอกาสในด้านเครื่องจักรกลทางการเกษตรของไทยที่กำลังเป็นที่สนใจของคนอินเดียเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเครื่องสีข้าว เนื่องจากกำลังการผลิตมากกว่าเครื่องของอินเดียถึง 3 เท่าตัว แถมราคาก็ไม่แพง จึงมีผู้สั่งซื้อเข้าไปใช้ในอินเดียเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ
 
ส่วนสินค้าของตกแต่งบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ชนิดผู้ซื้อประกอบเองก็กำลังเป็นที่ต้องการสูง เนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กำลังบูมในอินเดีย การออกแบบของตกแต่งบ้านของไทยนั้นทันสมัยกว่าของอินเดีย แถมไม่แพง เป็นที่ต้องการของเศรษฐีใหม่ในอินเดียเป็นอย่างยิ่ง
 
อีกสาขาหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย นั่นคือการบริการ ไม่ว่าจะเป็น สปา ร้านอาหารไทย และการรักษาพยาบาล สปาไทยกำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในอินเดีย โดยโรงแรม รีสอร์ท และร้านเสริมสวยในอินเดียมักจะมีสปาไทยไว้บริการลูกค้า สำหรับร้านอาหารไทยควรสนับสนุนให้มีการร่วมทุนในลักษณะแฟรนไชส์ เช่น ร้านก๋วยเตี๋ยวแบบไทย ซึ่งจะมีส่วนสำคัญที่จะช่วยแก้ปัญหามันสำปะหลังล้นตลาดด้วย เนื่องจากหากมีร้านแฟรนไชส์ร้านก๋วยเตี๋ยวในต่างประเทศมากขึ้น การส่งออกเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ทำจากมันสำปะหลังก็จะมีมากขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์อาจริเริ่มสร้างแฟรนไชส์ธงฟ้าก๋วยเตี๋ยวไทยในต่างประเทศก็จะดีไม่น้อย
 
สำหรับธุรกิจการรักษาพยาบาล ควรประชาสัมพันธ์ให้คนอินเดียได้ทราบว่าแม้แต่คนดูไบยังมารักษาพยาบาลในไทย เนื่องจากชาวอินเดียที่มีฐานะดีมักจะเดินทางไปพักผ่อน ไปชอปปิงที่ดูไบ และมักจะเลียนแบบรูปแบบการใช้ชีวิตของชาวดูไบ ซึ่งหากชี้ประเด็นนี้ก็จะมีคนอินเดียมาใช้บริการรักษาพยาบาลในไทยมากขึ้น นอกจากนั้นก็ควรโฆษณาร้าน duty free ของไทยด้วยว่าราคาเท่ากับหรือถูกกว่าที่ดูไบ เพื่อให้คนอินเดียหันมาชอปปิงและมาเที่ยวไทยมากขึ้น
 
สำหรับท่านที่สนใจเปิดตัวในตลาดอินเดีย ไม่ควรพลาดที่จะร่วมงาน ไทยแลนด์เอ็กซิบิชั่น ที่เมืองเจนไน ระหว่างวันที่ 22-26 กรกฎาคม 2552 นี้ โดยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่กรมส่งเสริมการส่งออก ซึ่งในปีนี้จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ถึง 5 วัน มีทั้งการแสดงสินค้า สปาไทย และการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ไม่ว่าจะเป็นการรำไทย การแสดงเพนท์ร่ม การแกะสลักผลไม้ ซึ่งจะเป็นแม่เหล็กที่สำคัญดึงดูดชาวภารตะเข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 1 แสนคน.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 5 มีนาคม 2552
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=192533&NewsType=1&Template=1

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology