͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

เตือนภัยสารพิษตกค้างยาวนาน กรมส่งเสริมฯเร่งวางมาตรการลดละเลิกสารเคมี

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 52

เตือนภัยสารพิษตกค้างยาวนาน กรมส่งเสริมฯเร่งวางมาตรการลดละเลิกสารเคมี นายโอฬาร พิทักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมให้ความสำคัญอย่างมากต่อเรื่องสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน (Persistent Organic Pollutants: POPs) ซึ่งล่าสุดกรมควบคุมมลพิษร่วมกับธนาคารโลก จัดให้มีการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องการประเมินความเสี่ยงและจัดการความเสี่ยงต่อสุขภาพอนามัยจากสารมลพิษที่ตกค้างยาวนานขึ้นที่ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี หัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สำหรับสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน เป็นสารที่มีคุณสมบัติที่สลายตัวช้าในสิ่งแวดล้อม มี 12 ชนิด เป็นสารที่ถูกนำมาใช้ในภาคการเกษตรเพื่อป้องกันกำจัดศัตรูพืช 8 ชนิดประกอบด้วย อัลดริน คลอเดน ดีดีที ดิลดริน เอนดริน เฮปตะคลอร์ ไมเร็กซ์ และ ท็อกซาฟีน ขณะที่ 2 ชนิด ใช้ในภาคอุตสาหกรรม คือ เอชซีบี และ พีซีบี ส่วนอีก 2 ชนิดเป็นสารที่เกิดขึ้นโดยความไม่จงใจจากกระบวนการเผาไหม้และกระบวนการผลิตคือไดออกซินและฟิวแรนซึ่งทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง

ทั้งนี้สารเคมีทางการเกษตรทั้ง 8 ชนิดดังกล่าว มีการประกาศห้ามนำเข้าและห้ามใช้ในประเทศแล้ว ที่น่าเป็นห่วงคือสารไดออกซินและสารฟิวแรนซึ่งเป็นสารก่อเกิดมะเร็งที่เกิดขึ้นโดยความไม่จงใจจากกระบวนการเผาไหม้ เช่น การทำอาหารประเภทปิ้ง-ย่าง เตาเผาศพที่ไม่ได้มาตรฐาน สารเหล่านี้สะสมอยู่ในเนื้อเยื่อไขมันมนุษย์และสัตว์ สะสมอยู่ในห่วงโซ่อาหารในปริมาณสูงและยาวนาน

"การลดความเสี่ยงจากการสัมผัสสาร POPs หรือสารเคมีอื่นๆ เป็นสิ่งที่ปฏิบัติค่อนข้างยากลำบาก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีมาตรการที่เหมาะสม เช่น การใช้สารอื่นทดแทนการใช้สารเคมี การไม่ใช้สารเคมีเพิ่มมากขึ้น และการลด ละ เลิกใช้สารเคมี การส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความตระหนักถึงพิษภัยของสาร POPs และสารเคมีอื่นๆ ด้วยการส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการใช้สาร ตลอดจนร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาและนำไปใช้ในทางปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยเริ่มต้นตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับประเทศ" นายโอฬาร กล่าว

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=149492

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology