͢¢ԷҡѧPostharvest Technology Information NetworkPostharvest TechnologyɵҪԡ͢纺촡ɵҹŧҹԨ

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

คุ้มครองปาล์มและฟักแฟง

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 52

คุ้มครองปาล์มและฟักแฟง คณะกรรมการคุ้มครองพันธุ์พืชมีมติกำหนดให้ปาล์มน้ำมันและฟักแฟงเป็นพืชพันธุ์ใหม่ที่จะได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 สำหรับปาล์มน้ำมันกระทรวงเกษตรฯได้เริ่มวิจัยด้านปรับปรุงพันธุ์ โดยมีการศึกษาคัดเลือกพันธุ์ปาล์มน้ำมันดูราเทเนอราและพิสิเทอรา จากเชื้อพันธุ์ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศคอสตาริกามาปลูกทดสอบที่ศูนย์วิจัยพืชสวน สุราษฎร์ธานี และสถานีทดลองพืชสวนตรัง ซึ่งสามารถคัดเลือกสายพันธุ์ปาล์มที่ดีเด่น รวมทั้งออกเป็นพันธุ์รับรองได้ 6 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ปาล์มน้ำมันลูกผสม สุราษฎร์ธานี 1 สุราษฎร์ธานี 2 สุราษฎร์ธานี 3 สุราษฎร์ธานี 4 สุราษฎร์ธานี 5 และสุราษฎร์ธานี 6

อีกทั้งยังกำหนดพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน จัดทำกล้าพันธุ์ส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันและพืชน้ำมัน รวมถึงศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในแผนการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันปี พ.ศ. 2549-2552 ซึ่งมีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ปลูกเป็น 6 ล้านไร่

ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันรวม 3.14 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ให้ผลผลิตแล้ว 2.72 ล้านไร่ คิดเป็นมูลค่าของผลผลิตตามราคาที่เกษตรกรขายได้ 26,007 ล้านบาท ทั้งนี้ปาล์มน้ำมันเป็นพืชที่มีศักยภาพในการผลิตน้ำมันต่อพื้นที่สูงสุด เมื่อเทียบกับพืชน้ำมันชนิดอื่น ๆ และมีส่วนการตลาดร้อยละ 48 ของตลาดน้ำมันโลก
 
สำหรับฟักแฟงเป็นพืชที่ปลูกเป็นการค้าในท้องตลาด ได้แก่ แฟงไส้ตันลูกผสมสะพายเพชร แฟงไส้ตันลูกผสมสะพายทอง แฟงไส้ตันลูกผสมทองประกาย เป็นพืชผักที่เกษตรกรแถบภาคใต้นิยมปลูกจะปลูกตั้งแต่เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน มีวิธีการปลูกและการดูแลรักษาไม่ยาก โรคและแมลงวันรบกวนน้อยสามารถเก็บผลผลิตไว้ได้นาน ส่วนมากใช้ประกอบอาหารคาวหวาน โดยมีพื้นที่ปลูก 21,255 ไร่ ปริมาณนำเข้าเมล็ดพันธุ์ 10,026 กิโลกรัม มูลค่านำเข้า 509,071 บาท นอกจากนี้พันธุ์ฟักแฟงที่เกษตรกรต้องการ คือ มีความแข็งแกร่ง ทนต่อโรค รูปทรงผลสม่ำเสมอ ทรงกระบอก มีความดก มีน้ำหนักผลไม่เกิน 2 กิโลกรัม ไส้ตัน เนื้อหนา สีผิวผลเขียวเข้ม เขียวอ่อน สีนวล ตามที่ตลาดต้องการ

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2552
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=190751&NewsType=1&Template=1

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
  • มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
  • เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
  • อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
  • สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
  • โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
  • มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology