ผลของการห่อผลที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงปริมาณคลอโรฟิลล์ ปริมาณแคโรทีนอยด์ และคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยวของผลมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองซึ่งเก็บรักษาอุณหภูมิต่างๆ
รัตนรักษ์ บำรุง และ พีระศักดิ์ ฉายประสาท
วารสารวิทยาศาสตร์เกษตร 42 (3 พิเศษ): 216-219. 2554.
2554
บทคัดย่อ
การศึกษาการห่อผลและการเก็บรักษาที่มีผลต่อคุณภาพมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองหลังการเก็บเกี่ยว โดยทำการทดลองแบบ randomized complete block design (RCB)3ซ้ำๆละ 6 ผล จัดสิ่งทดลองแบบ factorial ประกอบด้วย 3 ปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยที่ 1ถุงห่อผลมะม่วง คือ ถุงหนังสือพิมพ์ ถุงคาร์บอนแบบบางและไม่ห่อผล(control) ปัจจัยที่ 2ระยะเวลาการห่อผล โดยทำการห่อผลที่ 60และ 67วันหลังดอกบาน ปัจจัยที่ 3อุณหภูมิในการเก็บรักษา คือ อุณหภูมิ 15และ 30องศาเซลเซียส โดยทำการเก็บเกี่ยวมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองที่ความบริบูรณ์ 80 เปอร์เซ็นต์ และเก็บรักษาที่อุณหภูมิแตกต่างกัน ตรวจสอบคุณภาพทุก 3 วัน ผลการทดลองพบว่า การห่อผลในทุกกรรมวิธีมีผลต่อคุณภาพภายนอกของผลมะม่วง โดยการห่อผลทำให้มะม่วงมีการพัฒนาสีเปลือกจากสีเขียวเป็นสีเหลืองได้ดีขึ้น การห่อผลด้วยถุงคาร์บอนแบบบางที่ระยะ 60 วันหลังดอกบาน และเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 15และ 30องศาเซลเซียส มีผลทำให้ผลมะม่วงมีการพัฒนาสีเปลือกได้ดีที่สุด โดยมีค่าความสว่าง (L) ค่าสีแดง (+a) และค่าสีเหลือง (+b) สูงกว่าทุกกรรมวิธี แต่มีปริมาณแคโรทีนอยด์ทั้งหมด ปริมาณคลอโรฟิลล์เอ และปริมาณคลอโรฟิลล์บีต่ำกว่าการห่อผลด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ และcontrolตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบว่ากรรมวิธีที่ไม่ห่อผลนั้นมีผลทำให้มะม่วงมีความสุกแก่เร็วกว่ากรรมวิธีที่ห่อผลด้วยถุงชนิดอื่นๆ โดยกรรมวิธีที่ไม่ห่อผลนั้นมีปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้มีมากที่สุด และปริมาณกรดที่ไทเทรตได้น้อยกว่ากรรมวิธีอื่นๆ ในส่วนของความแน่นเนื้อพบว่า เมื่อระยะเวลาการเก็บรักษานานขึ้นผลมะม่วงจะมีความแน่นเนื้อลดลงในทุกๆกรรมวิธีทั้งสองอุณหภูมิการเก็บรักษา