บทคัดย่องานวิจัย

การจัดการข้าวโพดชื้นโดยการอบแห้งแบบฟลูอิไดเซชัน, การเทมเปอร์ และการเป่าอากาศแวดล้อม

พงศ์เทพ โชติจักรดิกุล

วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (เทคโนโลยีการจัดการพลังงาน) คณะพลังงาน สิ่งแวดล้อมและวัสดุ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, กรุงเทพฯ. 2540. 115 หน้า.

2540

บทคัดย่อ

การจัดการข้าวโพดชื้นโดยการอบแห้งแบบฟลูอิไดเซชัน, การเทมเปอร์ และการเป่าอากาศแวดล้อม

            จุดประสงค์ในงานวิจัยนี้  เพื่อศึกษาแนวทางการลดความชื้นของข้าวโพดหลังการเก็บเกี่ยวอย่างเป็นระบบ  โดยเริ่มตั้งแต่การอบแห้งอย่างรวดเร็วด้วยเทคนิคฟลูอิไดเซชัน  ตามด้วยการเก็บในที่อับอากาศที่อุณหภูมิของเมล็ดหลังการอบแห้ง  และการเป่าอากาศแวดล้อมเข้าในกองเมล็ด  ข้าวโพด  ตามลำดับ  โดยพิจารณาถึงปริมาณความชื้นของข้าวโพดที่สามารถลดลงได้  และคุณภาพของผลิตภัณฑ์

            คุณภาพของข้าวโพดพิจารณาจากเปอร์เซ็นต์การร้าว  เปอร์เซ็นต์การปริแตก  และสีของเมล็ด  จากการทดลอง  พบว่า การร้าวหลายแนวของเมล็ดข้าวโพดหลังการอบแห้งขึ้นอยู่กับค่าความชื้นสุดท้ายของเมล็ดข้าวโพดและไม่ควรมีค่าต่ำกว่า  18.0 %w.b  การเก็บเมล็ดข้าวโพดหลังการอบแห้งในที่อับอากาศมีส่วนช่วยทำให้คุณภาพของเมล็ดข้าวโพดที่ผ่านการอบแห้งด้วยเทคนิคฟลูอิไดเซชันดีขึ้น  โดยมีระยะเวลาที่เหมาะสมประมาณ 40 นาที  และการเป่าอากาศแวดล้อมผ่านกองเมล็ดข้าวโพดสำหรับสภาวะที่ใช้ในการทดลองในช่วงความเร็วของอากาศแวดล้อม    0.075 – 0.375  m/s  พบว่า   ความเร็วอากาศแวดล้อมที่เหมาะสมมีค่าประมาณ  0.150 m/s (300 m3 /min- m3  corn  ที่ความสูงเบด  3.0 cm)  เพื่อให้ได้เมล็ดข้าวโพดที่ผ่านกระบวนการทั้งหมดมีความชื้นสุดท้ายประมาณ  13.0 – 14.5 % w.b.  โดยมีค่าการปริแตกและการร้าวของเมล็ดข้าวโพดไม่เกิน  2 และ 5 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก ตามลำดับ  และสีของเมล็ดข้าวโพดไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปกติมากนัก