บทคัดย่องานวิจัย

ผลของเอทธานอลและอะซีตัลดีไฮด์ ต่อการควบคุมโรคเน่าราสีเขียว และคุณภาพของผลส้มเขียวหวาน

กฤษฎา บุตรพลอย

วิทยานิพนธ์ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต(เกษตรศาสตร์) สาขาวิชาพืชสวน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. 114 หน้า.

2545

บทคัดย่อ

ผลของเอทธานอลและอะซีตัลดีไฮด์ ต่อการควบคุมโรคเน่าราสีเขียว และคุณภาพของผลส้มเขียวหวาน การศึกษาผลของเอทธานอล และอะซีตัลดีไฮด์ต่อการควบคุมโรคเน่าราสีเขียวและคุณภาพของผลส้มเขียวหวานดำเนินการโดยนำผลส้มแช่ในเอทธานอลที่ความเข้มข้น102040และ70เปอร์เซ็นต์และแช่ในอะซีตัลดีไฮด์ที่ความเข้มข้น0.51.0และ1.5เปอร์เซ็นต์ที่อุณหภูมิ37องศาเซลเซียสนาน120150และ180วินาทีพบว่าความเข้มข้นและระยะเวลาในการแช่มีผลต่อการควบคุมโรคและความผิดปกติของผลส้มโดยความเข้มข้นที่เหมาะสมที่สุดคือแช่ในเอทธานอลที่ความเข้มข้น20เปอร์เซ็นต์นาน180วินาทีและแช่ในอะซีตัลดีไฮด์ที่ความเข้มข้น1.5เปอร์เซ็นต์นาน180วินาทีซึ่งมีประสิทธิภาพในการชะลอการเข้าทำลายของเชื้อราได้นานที่สุดคือ2.25 วัน และ1.56วันตามลำดับโดยผลส้มไม่แสดงอาการผิดปกติการวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของผลส้มแสดงว่าการแช่ผลส้มเขียวหวานในเอทธานอลและอะซีตัลดีไฮด์ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงปริมาณกรดแอสคอร์บิคปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้และปริมาณกรดที่ไตเตรทได้แต่มีผลต่อการเปลี่ยนสีผิวของผลส้มหลังการใช้สารแช่ผลส้มพบว่าปริมาณเอทธานอลและอะซีตัลดีไฮด์ในผลส้มเท่ากับ582.48 มก/ลิตร และ4.68 มก/ลิตรตามลำดับ

การศึกษาผลของการใช้เอทธานอลและอะซีตัลดีไฮด์ควบคุมโรคโดยวิธีการรมด้วยไอระเหยของสารผลกรทดลองแสดงว่าความเข้มข้นของ เอทธานอลและระยะเวลาการรมที่ต่างกันมีผลต่อการควบคุมโรคเน่าราสีเขียวและความผิดปกติบนผลส้มเอทธานอลสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อรา Penicillium sp. ได้โดยไม่ทำให้เกิดอาการผิดปกติกับผลส้มการรมด้วยไอระเหยของเอทธานอลที่ความเข้มข้น0.05เปอร์เซ็นต์นาน3วันสามารถชะลอการเกิดโรคได้นาน4.25วันในขณะที่รมด้วยไอระเหยของอะซีตัลดีไฮด์สามารถชะบอการเกิดโรคได้นาน2.63วันเมื่อวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของผลส้มแสดงว่าเอทธานอลและอะซีตัลดีไฮด์ไม่มีผลกระทบต่อการปริมาณกรดแอสคอร์บิคปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้แ ละปริมาณกรดที่ไตเตรทได้แต่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงสีผิวของผลส้มหลังการรมด้วยเอทธานอลและอะซีตัลดีไฮด์แล้วผลส้มมีปริมาณเอทธานอลและอะซีตับดีไฮด์962.38มก / ลิตรและ12.73มก / ลิตรตามลำดับ