���͢��¢������Է�ҡ����ѧ����������Postharvest Technology Information NetworkPostharvest Technology�����ɵ���������Ҫԡ���͢������纺��촡���ɵ��ҹ�����ŧҹ�Ԩ��

แนะนำหน่วยงาน

  • หน้าหลัก
  • ประชาสัมพันธ์ศูนย์ฯ
  • ความเป็นมา
  • วัตถุประสงค์
  • โครงสร้างการบริหาร
  • คณะกรรมการอำนวยการ
  • คณะกรรมการบริหาร
  • ภาคีสถาบันอุดมศึกษาและวิจัย
  • ติดต่อศูนย์ ฯ

บริการต่าง ๆ

  • PHTNET E-Learning
  • Postharvest Newsletter
  • เครื่องมือวิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการ
  • รายชื่อผู้ประกอบการ
  • ฐานข้อมูลผู้เชี่ยวชาญ
  • หลักสูตรวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว
  • รูปภาพความเสียหายหลังการเก็บเกี่ยว
  • มาตรฐานสินค้าเกษตร และระเบียบการส่งออก
  • ลิ้งค์ที่เกี่ยวข้อง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  • สถาบันวิจัยเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • กรมส่งเสริมการเกตร
  • กรมวิชาการเกษตร
  • สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
  • อุตุนิยมวิทยาเพื่อการเกษตร
  • สมาคมผู้ส่งข้าวออกต่างประเทศ
  • ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
  • สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.)

หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน

ตั้งเครือข่ายผู้ปลูกสับปะรดแก้ปัญหาการผลิตและตลาด

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 53

ตั้งเครือข่ายผู้ปลูกสับปะรดแก้ปัญหาการผลิตและตลาด
ปัจจุบันไทยมีเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดราว 38,000 ครัวเรือน กระจายอยู่ 20 จังหวัดทั่วประเทศ ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ คือ เกษตรกรยังขาดความรู้เรื่องเทคโนโลยีการผลิตที่ถูกต้อง ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพต่ำและมีสารเคมี (สารไนเตรท) ตกค้าง ทำให้ผลผลิตถูกส่งกลับหรือถูกตัดราคารับซื้อเป็นประจำ ประกอบกับปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ยเคมี สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช สารกำจัดวัชพืช อุปกรณ์การเกษตรรวมทั้งค่าจ้างแรงงานมีราคาสูง

นอกจากนี้ ในด้านการจำหน่ายผลผลิตก็ประสบปัญหาเช่นกัน เนื่องจากสับปะรดเป็นพืชอุตสาหกรรม ซึ่งผลผลิตร้อยละ 70 ต้องพึ่งพาโรงงานแปรรูปทำสับปะรดกระป๋องส่งต่างประเทศ ราคาผลผลิตจึงขึ้นอยู่กับโรงงานผู้รับซื้อเป็นผู้กำหนดในบางช่วง เช่น เดือน พ.ค.-มิ.ย. ผลผลิตจะออกสู่ตลาดจำนวนมากทำให้เกิดการกระจุกตัวระยะสั้น ๆ ผู้ซื้อกดราคาหรือไม่รับซื้อผลผลิตในราคาที่เป็นธรรม ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนและเกิดการเดินขบวนเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือด้านราคาอยู่เป็นประจำ

นางปาริชาติ ศรีวิพัฒน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ดังนั้น กรมส่งเสริมการเกษตรจึงกำหนดนโยบายและแนวทางการส่งเสริมกลุ่มเครือข่ายสับปะรดไว้ในยุทธศาสตร์ สับปะรดที่ผ่านคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติ ซึ่งมีพลตรีสนั่น ขจรประศาสตร์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยสาระสำคัญของการดำเนินการสนับสนุนด้านกลุ่มเครือข่าย ตามยุทธศาสตร์สับปะรดด้านการผลิต มีมาตรการสนับสนุน คือ

1) พัฒนาสถาบันเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง ได้แก่ การจัดตั้งกลุ่ม  หรือสถาบันเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด มีการฝึกอบรมคณะกรรมการบริหารกลุ่มเรื่องการบริหารจัดการกลุ่ม ฝึกอบรมสมาชิกกลุ่มหรือสถาบันเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดเรื่องกระบวนการทำงาน กลุ่มและประโยชน์ที่ได้รับ จัดทัศนศึกษา  ดูงานการผลิตการแปรรูปและการตลาดของคณะกรรมการบริหารกลุ่มหรือสถาบันเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดทั่วประเทศ มีการประชุมกลุ่มหรือสถาบันเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดเป็นประจำทุกเดือน พัฒนากลุ่มผู้ปลูกสับปะรดให้เป็นวิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์ ตลอดจนประสานแหล่งเงินทุนสนับสนุนกลุ่มหรือสถาบันเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด

2) สร้างและพัฒนาเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มหรือสถาบันเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด โดยจัดตั้งคณะกรรมการกลุ่มหรือสถาบันเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดระดับตำบล อำเภอ จังหวัด และประเทศ และมีการประชุมคณะกรรมการกลุ่มหรือสถาบันเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดทุกระดับ จัดทัศนศึกษาดูงาน การผลิต การแปรรูป การตลาดของคณะกรรมการกลุ่มผู้ปลูกสับปะรดระดับจังหวัด และระดับประเทศ รวมทั้งประชุมสัมมนาแถลงผลงาน และวางแผนดำเนินงานของคณะกรรมการกลุ่มผู้ปลูกสับปะรดระดับจังหวัดและระดับประเทศ ที่ผ่านมากรมส่งเสริมการเกษตร ให้ความสำคัญกับการ  จัดตั้งกลุ่มและการเชื่อมโยงเครือข่ายของเกษตรกร ซึ่งขณะนี้ได้ ส่งเสริมให้มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ปลูกสับปะรดแล้วในจังหวัดที่มีการปลูกสับปะรดไม่น้อยกว่า 332 กลุ่ม สนับสนุนปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ยเคมี สารบังคับดอก สารกำจัดวัชพืชลงสู่กลุ่ม เพื่อให้คณะกรรมการกลุ่มได้แจกจ่ายให้กับสมาชิกและบริหารปัจจัยการผลิตดังกล่าวกลับเข้ามาเป็นเงินทุนหมุนเวียนกลุ่มไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท

หากเกษตรกรมีการรวมกลุ่มเป็นองค์กรที่เข้มแข็งในการจำหน่ายผลผลิต โดยมีการคำนวณต้นทุนการผลิต และกำหนดราคาจำหน่ายผลผลิตอย่างเหมาะสมเป็นธรรมร่วมกันกับโรงงานผู้รับซื้อ ซึ่งเป็นราคากลางที่ยอมรับร่วมกันได้ทั้งสองฝ่ายก็จะไม่เกิดปัญหาด้านราคาตามมา ขณะเดียวกันประโยชน์ที่จะได้รับจากการรวมกลุ่มอีกประการหนึ่งก็คือ การช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการหรือเอกชน หากช่วยเหลือผ่านกลุ่มหรือสถาบันเกษตรกรจะสามารถทำได้ง่ายกว่า ทั้งการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=345&contentID=50390

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
  • นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
  • 'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
  • คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
  • ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
  • วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
  • บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
  • วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง
  • ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    Postharvest Technology Innovation Center

    เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology